ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป ปรับกลยุทธ์ดำเนินธุรกิจครั้งสำคัญ มุ่งหน้าบุกตลาดส่งออกทั้งยุโรป-ญี่ปุ่นให้มากขึ้น หวังปริมาณการขายปีนี้ทำให้ได้ 50,000 ตัน เผยเตรียมผลิตไก่ปรุงสุกเพื่อส่งออกในไตรมาส 3-4 นี้ ขณะเดียวกัน ลดการขายสินค้าไก่ภายในประเทศลง งานนี้มีเป้าหมายชัดเจน ต้องสร้างกำไรให้สูงกว่าการขายในประเทศ ส่วนธุรกิจสุกรก็ไปได้สวย ราคาตลาดเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ 55-56 บาทต่อกิโลกรัม จากไตรมาสแรก 40 บาทต่อกิโลกรัม เชื่อมั่นรายได้รวมปี 2561 เติบโต 20% พร้อมโชว์กำไรสวยต่อเนื่อง
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่า บริษัทฯ มั่นใจว่า ธุรกิจทั้ง 4 กลุ่มยังมีโอกาสขยายตัวต่อเนื่องในระยะยาว โดยคาดว่าในปี 2561 จะมีรายได้รวมเติบโต 20% จากปีก่อน รวมถึงมีความสามารถสร้างกำไรได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากช่วงครึ่งปีหลัง แนวโน้มราคาไก่ในประเทศฟื้นตัวได้ดีขึ้นกว่าครึ่งปีแรก และบริษัทฯ ได้ปรับพอร์ตการขาย เข้าสู่ตลาดส่งออกทั้งยุโรป และญี่ปุ่น ให้มากขึ้น โดยมีเป้าหมายการขายอยู่ที่ 50,000 ตันภายในสิ้นปีนี้ เพื่อสร้างฐานกำไรให้สูงกว่าการขายในประเทศ และเร่งปรับเปลี่ยนวิธีการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า by-products เป็นสินค้าส่งออก และอุตสาหกรรม และลดการขายสินค้าไก่ภายในประเทศลง อีกทั้งจะเริ่มการผลิตไก่ปรุงสุกเพื่อส่งออกในไตรมาส 3 และ 4 โดยมีเป้าหมายการขาย 30% ของกำลังการผลิต 30,000 ตันต่อปี ซึ่งจะช่วยลดการขายไก่ในประเทศ และป้อนไก่เป็นวัตถุดิบสู่โรงงานปรุงสุกภายในสิ้นปีนี้
ขณะเดียวกัน TFG เตรียมขยายธุรกิจ ผลิต และขายลูกไก่ เป็นอันดับต้นของประเทศ และยังคงรักษาตำแหน่งผู้ผลิตรายใหญ่ต่อไป โดยในต้นปีหน้าจะเพิ่มโรงฟักไข่ใหม่ที่ใช้เทคโนโลยีชั้นนำของโลก และเพิ่มฟาร์มพ่อแม่พันธุ์ เพื่อส่งลูกไก่เข้าสู่วงจรการเลี้ยงไก่อีกสัปดาห์ละ 0.5 ล้านตัว
ส่วนธุรกิจสุกรนั้น สำหรับตลาดในประเทศ ราคาขายเริ่มฟื้นตัวดีขึ้นจากระดับต่ำสุดในไตรมาสแรกที่ผ่านมา ซึ่งราคาสุกรอยู่ที่ 40 บาทต่อกิโลกรัม ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 55-56 บาทต่อกิโลกรัม ทำให้ธุรกิจสุกรสามารถสร้างรายได้สูงขึ้นมาก ดังนั้น TFG จึงเร่งขยายการเลี้ยงและจำหน่ายจากปัจจุบัน เดือนละ 70,000 ตัว เพิ่มขึ้นอีก 15-20% เพื่อรองรับดีมานด์ของตลาดในต้นปีหน้า ทั้งในส่วนของการขายสุกรเป็น และสุกรชำแหละ เพื่อรองรับตลาดที่ฟื้นตัว
นอกจากนี้ ยังมีการขยายกำลังการผลิตของโรงชำแหละสุกร ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี เพิ่มอีก 25% เป็น 1,000 ตัวต่อวัน โดยธุรกิจสุกรโดยรวมน่าจะทำรายได้รวมประมาณ 6,000 ล้านบาทในปีนี้ ส่วนตลาดสุกรในเวียดนาม ราคาปรับตัวสูงขึ้นสูงกว่าในประเทศไทย โดยราคาตลาดอยู่ที่ประมาณ 65 บาท บริษัทฯ ได้ส่งสุกรเข้าตลาดดังกล่าวเดือนละ 7,000 ตัว
ขณะที่ธุรกิจอาหาร บริษัทฯ อยู่ระหว่างเริ่มขยายการผลิตและการขายไส้กรอกไก่เป็น 60 ตันต่อวัน เนื่องจากได้รับการตอบรับที่ดีมากจากการขายของสาขาต่างจังหวัด 40 สาขา รายได้จาการขายไส้กรอกปี 2561 ประมาณ 650 ล้านบาท และจะขยายต่อไปเป็น 80 ตันต่อวันภายในต้นปี 2562 เพิ่มเติมจาก โรงงานไก่ปรุกสุกอีกด้วย
ทั้งนี้ การที่บริษัทได้เข้าซื้อทรัพย์สินของโรงงานไส้กรอกหมู แฮม และเบคอนในเดือนมิถุนายนนี้ และเริ่มผลิตแล้ว โดยมีเป้าหมายสร้างรายได้ 100 ล้านบาทภายในกลางปีหน้า และบริษัทฯ มีแผนงานที่จะขยายการผลิตสินค้าแปรรูปกลุ่มนี้ให้มากขึ้นอีก โดยตั้งโรงงานใหม่เพื่อรองรับการขยายการชำแหละเพิ่ม บริษัทฯ มีแผนงานที่จะตั้งโรงงานเพื่อผลิตหมูแปรรูป ที่ อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี
ส่วนธุรกิจอาหารสัตว์ในครึ่งปีแรกมีการขยายตัวต่อเนื่อง โดยในปีที่แล้ว รายได้ขยายตัวต่อเนื่อง และในปีนี้ 2561 ขายภายในเครือประมาณ 10,000 ล้านบาท และมีเป้าหมายการขายนอกเครืออยู่ที่ไม่ต่ำกว่า 4,000 ล้านบาท ทั้งนี้ ภาพรวมในปี 2561 จะขยายตัวกว่า 35% จากปีที่แล้ว โดยการผลิตและขายอาหารสัตว์อยู่ประมาณเดือนละ 115,000 ตันต่อเดือน และกำลังก่อสร้างโรงงานอาหารสัตว์เพิ่มขนาด 75,000 ตันต่อเดือนในปีหน้า