เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ ขายหุ้นเพิ่มทุนฉลุย กลุ่มหุ้นใหญ่ใช้สิทธิเต็มจำนวน รับเงินจากการเพิ่มทุนกว่า 179.5 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ส่วนทุนขยับ ขณะที่หนี้ต่อทุนลดลงทันทีเหลือเพียง 2.8 เท่า พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจร้านอาหารเต็มสูบ มั่นใจรายได้ปีนี้อยู่ที่ 1.5 พันล้านบาทตามเป้าหมาย
นายอภิชัย เตชะอุบล ประธานกรรมการ บริษัท เจซีเค ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JCKH เปิดเผยว่า ผลการเพิ่มทุนในวันที่ 18-22 มิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ ใช้สิทธิเต็มจำนวน ทำให้บริษัทได้รับเงินจากการเพิ่มทุน จำนวน 179.5 ล้านบาท สำหรับหุ้นที่เหลือจากการเสนอขาย บริษัทฯ จะพิจารณาว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไปขึ้นอยู่กับตามความจำเป็นในการใช้เงินทุนของบริษัทฯ และภาวะตลาดในช่วงเวลานั้นอีกครั้งหนึ่ง
“ภายหลังจากการเพิ่มทุน บริษัทฯ จะมีฐานะการเงินที่แข็งแกร่ง ทำให้มีส่วนของทุนเพิ่มขึ้นเป็น 180.5 ล้านบาท จากเดิมที่มีอยู่เพียง 1 ล้านบาท สัดส่วนหนี้สินต่อทุนลดจาก 453 เท่า เหลือเพียง 2.8 เท่า ส่งผลการเพิ่มทุนในครั้งนี้ ทำให้บริษัทฯ มีฐานทุน และฐานะทางการเงินที่เข้มแข็งขึ้น โดยเงินที่ได้จากการเพิ่มทุนครั้งนี้จะนำไปใช้เป็นทุนหมุนเวียนสำหรับขยายธุรกิจ และเทกโอเวอร์ร้านอาหารแบรนด์ใหม่ๆ เพิ่มเข้ามา เพื่อสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต” นายอภิชัย กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปีนี้ บริษัทคาดว่าจะมีรายได้รวมอยู่ที่ 1.5 พันล้านบาท ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยในส่วนของแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/61 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ปรับโครงสร้างภายในองค์กร โดยปิดสาขาที่ไม่สร้างรายได้ คงเหลืออยู่ 102 สาขา ได้แก่ Hot Pot 91 สาขา, Daidomon 7 สาขา, Signature 2 สาขา, Toomato Italian Kitchen 1 สาขา และ Soupper Pot 1 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนจะปรับปรุงและตกแต่งสาขาเดิม โดยจะปรับปรุงทั้งในเรื่องคุณภาพอาหาร ความสะอาดของร้าน และภาพลักษณ์ของร้านใหม่ รวมถึงการขยายสาขาใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพ โดยคาดว่าจะใช้เงินลงทุนจากการเพิ่มทุนในคราวนี้ประมาณ 50 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม ภายหลังการปรับโครงสร้างการบริหารจัดการภายในองค์กร รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพในบริหารต้นทุน คาดว่าจะทำให้บริษัทฯ มีต้นทุนอาหาร (Food cost) ลดลงเหลือ 46% จากปัจจุบัน 48% และในอนาคตคาดหวังจะลดลงให้ต่ำกว่า 42%