บมจ. บางกอกชีทเม็ททัล ลั่นบอร์ดไฟเขียว เดินหน้าออกวอร์แรนต์ ครั้งที่ 1 (BM-W1) ไม่เกิน 110 ล้านหน่วย เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 275 ล้านบาท เพื่อรองรับการออกวอแรนต์ พร้อมอนุมัติเซ็นเอ็มโอยู กับ Super Power Co., Ltd. และ Tunn Star Co.,Ltd. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเกี่ยวกับโรงงานผลิตท่อสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศพม่า เล็งเสนอประชุมผู้ถือหุ้น 2 ส.ค. นี้
นายธานิน สัจจะบริบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล จำกัด (มหาชน) หรือ BM เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 3/2561 ได้มีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2561 เพื่อพิจารณาอนุมัติการออกและจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (BM-W1) จำนวนไม่เกิน 110 ล้านหน่วย ให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทในอัตราส่วน 4 หุ้นสำมัญเดิมต่อใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วย โดยไม่คิดมูลค่ากรณีมีเศษให้ปัดทิ้ง
โดยมีอัตราการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิ 1 หน่วยต่อหุ้นสามัญ 1 หุ้น และด้วยราคาใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญที่ 4 บาทต่อหุ้น และมีอายุของใบสำคัญแสดงสิทธิเท่ากับ 2 ปี ซึ่งนับจากวันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ ซึ่งได้กำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 2 สิงหาคม 2561 และกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการได้รับจัดสรรใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทในครั้งนี้ (Record Date) ในวันที่ 9 สิงหาคม 2561
ทั้งนี้ ยังมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้น เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทเป็น 275 ล้านบาท จากเดิมมีทุนจดทะเบียนอยู่ที่ 220 ล้านบาท โดยมีการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 110 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (BM-W1) และมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา และอนุมัติให้แก้ไขเพิ่มเติมหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัท ข้อ 4 เพื่อสอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน
พร้อมกันนี้ ประชุมคณะกรรมการบริษัทยังมีมติอนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นพิจารณา และอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 110 ล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 1 (BM-W1) ประกอบกับอนุมัติให้เข้าร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับ Super Power Co., Ltd. และ Tunn Star Co.,Ltd. เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนเกี่ยวกับโรงงานผลิตท่อสินค้าแปรรูปผลิตภัณฑ์เหล็กในประเทศพม่า เช่น enclosures,ผลิตภัณฑ์โลหะรีดขึ้นรูป, ท่อ, ท่อร้อยสายไฟ, ผลิตภัณฑ์เหล็กรีดร้อน เป็นต้น และหากมีความชัดเจนบริษัทจะมีการแจ้งให้ทราบในอนาคต
ขณะเดียวกัน ยังมีมติอนุมัติให้แก้ไขวัตถุประสงค์ในการใช้เงินเพิ่มทุนสำหรับการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เนื่องจากการก่อสร้างอาคารโรงงานแห่งใหม่หลังที่สองได้ดำเนินการเรียบร้อย และในปัจจุบันได้ใช้งานแล้ว โดยมีเงินคงเหลืออยู่ตามแผนการใช้เงิน ทำให้บริษัทมองว่าสมควรที่จะได้นำเงินส่วนดังกล่าวจำนวน 20 ล้านบาทไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบต่อการก่อสร้างอาคารดังกล่าว