บมจ. บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ กำไรสุทธิประจำปีสิ้นสุด 31 มี.ค. 61 กว่า 4.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 2.4 ล้านบาท หรือ 120% จากรายได้หลักธุรกิจขนส่งมวลชน-สื่อโฆษณาเพิ่มขึ้น บวกกับรับรู้กำไรจากการปรับโครงสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์อีกเกือบ 1.9 พันล้านบาท ด้านบอร์ดไฟเขียวจ่ายปันผลหุ้นละ 0.185 บาท พร้อมเพิ่มทุน 2.35 พันล้านหุ้นเพื่อรองรับวอร์แรนต์ที่จัดสรรให้ผู้ถือเดิม และขายเฉพาะเจาะจงไม่เกิน 592 ล้านบาท
นายรังสิน กฤตลักษณ์ กรรมการบริหารและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการ บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS แจ้งผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยกำไรสุทธิรวม 4,415.71 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.3728 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 2,003.48 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 0.1692 บาท หรือกำไรสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 2,412.23 ล้านบาท คิดเป็น 120.40%
บริษัทมีรายได้จากการดำเนินงานปรับตัวดีขึ้น 63.3% จากปีก่อน เป็น 14,102 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ธุรกิจระบบขนส่งมวลชน และธุรกิจสื่อโฆษณา คือ รายได้ธุรกิจระบบขนส่งมวลชน 9,112 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 115.1% รายได้จากการให้บริการรับเหมาติดตั้งและก่อสร้างและจัดหารถไฟฟ้า 6,028 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 244.8% รายได้จากการให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุง 1,865 ล้านบาท เพิ่มขึ้น และรายได้จากธุรกิจสื่อโฆษณา 3,902 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.7%
พร้อมกันนี้ บริษัทมีมีการรับรู้กำไรจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ผ่านการโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท ยูนิคอร์น เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (EU) ไปยังบริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) ทำให้รับรู้กำไรจากการทำธุรกิจกรรมกว่า 1,880 ล้านบาท
ขณะเดียวกัน ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 28 พ.ค. 2561 ได้มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลในอัตราหุ้นละ 0.185 บาท จากผลการดำเนินงานงวด 1 เม.ย. 2560-31 มี.ค. 2561 กำหนดจ่ายในวันที่ 16 ส.ค. 2561
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการ ยังอนุมัติลดทุนจดทะเบียนโดยตัดหุ้นที่ยังไม่ได้ออกจำหน่าย หลังจากนั้นให้เพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 7.27 หมื่นล้านบาท จากเดิมที่ 6.33 หมื่นล้านบาท โดยออกหุ้นเพิ่มทุน 2.35 พันล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 4 บาท แบ่งเป็น จัดสรรไม่เกิน 1.76 พันล้านหุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุน (วอร์แรนต์) หรือ BTS-W4 ที่จะออกจำนวนไม่เกิน 1.76 พันล้านหน่วย ให้ฟรีแก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (RO) ในอัตราส่วน 9 หุ้นเดิมต่อ 1 หน่วย อายุ 1 ปี มีอัตราการใช้สิทธิ 1 หน่วย ต่อ 1 หุ้น ที่ราคาใช้สิทธิหุ้นละ 10.50 บาท
ทั้งนี้ เพื่อเตรียมความพร้อมและเพิ่มความแข็งแกร่งด้านการเงินของบริษัท เพื่อให้มีความยืดหยุ่นทางการเงินในการดำเนินโครงการในอนาคต ซึ่งรวมถึงการลงทุนในโครงการระบบขนส่งมวลชนทางราง และเพื่อสำรองไว้ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทเมื่อมีการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญของบริษัทตามใบสำคัญแสดงสิทธิ
ส่วนหุ้นเพิ่มทุนที่เหลือจำนวนไม่เกิน 592 ล้านหุ้น จะเสนอขายต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ตามแผนการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ซึ่งจะช่วยให้บริษัทมีแหล่งเงินทุนที่สามารถใช้ในการรองรับแผนการลงทุนเพื่อขยายกิจการในอนาคตได้อย่างทันกาล โดยบริษัทมีแผนการที่จะนำเงินทุนที่จะได้รับจากการเพิ่มทุนไปใช้ในการลงทุนในโครงการต่างๆ เพื่อขยายกิจการของบริษัท รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับการดำเนินกิจการของบริษัท และบริษัทย่อยในอนาคต
