ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงกว่า 21.01 จุด หรือคิดเป็น 1.23% ปิดภาคเช้าที่ 1,683.81 จุด หลังจากนักลงทุนเทขายหวั่นเกิดสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ บวกกับกังวลต่างชาติทิ้งหุ้นไทย หลังครึ่งปีแรกยอดขายสุทธิกว่า 1.6 แสนล้านบาท
บรรยากาศการซื้อขายหลักทรัพย์ ในตลาดหุ้นไทยวันนี้ (18 มิ.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างหนักตามทิศทางตลาดหุ้นเอเชียที่ได้รับปัจจัยลบจากความกังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยเองนักลงทุนยังคงเทขายหุ้นขนาดใหญ่ หลังจากที่นักลงทุนต่างประเทศยังคงมีแรงเทขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งล่าสุด ปลายสัปดาห์ก่อนมียอดขายสุทธิกว่า 1.6 แสนล้านบาท
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงหลุดแนวรับสำคัญที่ 1,700 จุดตั้งแต่เปิดการซื้อขายในภาคเช้า แตะระดับต่ำสุดที่ 1,681.97 จุด สูงสุด 1,695.44 จุด และยังคงมีแรงขายหุ้นขนาดใหญ่เข้ามากดดันอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 1,683.81 จุด ลดลง 21.01 จุด หรือคิดเป็น 1.23% มูลค่าการซื้อขาย 26,923.04 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ให้ความเห็นว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชีย ที่กังวลเรื่องสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ ซึ่งจะกระทบต่อประเทศคู่ค้าอื่นๆ ของสหรัฐฯ หลังจากสำนักงานตัวแทนการค้าสหรัฐ (USTR) ระบุการจัดเก็บภาษีมีผลบังคับใช้ต่อสินค้าจีนจำนวน 1,100 รายการ โดยสินค้าล็อตแรก จำนวน 818 รายการ มูลค่า 3.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จะถูกเรียกเก็บภาษีในวันที่ 6 ก.ค. นี้
ขณะเดียวกัน ตลาดหุ้นไทยได้มีแรงเทขายของนักลงทุนต่างชาติเข้ามาอย่างอย่างต่อเนื่องในปริมาณมาก ทำให้ไปกดดันหุ้นขนาดใหญ่ปรับตัวลดลง ดังนั้น ถ้าราคาหุ้นมีการรีบาวนด์ขึ้นมาได้บ้าง ก็ให้ลดพอร์ตการลงทุน โดยนักลงทุนที่เล่นเก็งกำไรระยะสั้นให้ถือหุ้นไว้ในพอร์ตไม่เกิน 40% ส่วนแนวโน้มในช่วงบ่ายนี้ ตลาดคงจะซบเซาต่อเนื่อง แนวรับที่ระดับ 1,680-1,675 จุด แนวต้าน 1,690-1,700 จุด
