ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลงถ้วนหน้า หลังเฟดประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% พร้อมส่งสัญญาณขึ้น 4 ครั้งในปีนี้ ตลาดหุ้นไทยร่วงหนัก 14.25 จุด ปิดที่ 1,704.09 จุด มูลค่าการซื้อขายรวมเกือบ 2.9 หมื่นล้าน
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทยเช้าวันนี้ (14 มิ.ย.) ดัชนีปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดการซื้อขาย โดยมีปัจจัยลบจากที่ประชุมคณะกรรมการนโบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% พร้อมส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอีก 2 ครั้งภายในสิ้นปีนี้ ทำให้รวมทั้งปีจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้ง
ดัชนีตลาดหุ้นไทยเปิดการซื้อขายที่ 1,712.00 จุด ลดลง 6.34 จุด ก่อนจะปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,701.15 จุด สูงสุด 1,715.65 จุด และปิดการซื้อขายที่ 1,704.09 จุด ลดลง 14.25 จุด หรือ 0.83% มูลค่าการซื้อขายรวมตลอดภาคเช้า 28,896.93 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ (14 มิ.ย.) เคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตามตลาดหุ้นในภูมิภาค หลังจากที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลงตามที่คาดการณ์ไว้อีก 0.25% พร้อมทั้งส่งสัญญาณจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้อีก 2 ครั้ง ซึ่งคาดจะทยอยปรับในเดือนก.ย. และ ธ.ค. นี้ ทำให้ตลอดทั้งปีจะมีการขึ้นดอกเบี้ยรวม 4 ครั้ง ขณะเดียวกัน เงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้น เนื่องจากเงินทุนไหลออกไปสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักลงทุนจะต้องติดตามการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) เรื่องยุติการทำมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ หรือ คิวอี ด้วยว่าจะเป็นอย่างไร ส่วนในประเทศยังไม่มีปัจจัยใหม่เข้ามาหนุนตลาด ทั้งนี้ แนะนำหุ้นในกลุ่มแลกการ์ด หรือหุ้นที่ยังปรับขึ้นไม่มากนัก รามถึงหุ้นวินโดว์เดรสซิ่ง หรือหุ้นที่ทำตัวเลขสิ้นไตรมาส มองแนวรับ 1,705 จุด และแนวต้านที่ 1,725 จุด
รายงานข่าวแจ้งว่า ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าปรับตัวลดลง อาทิ ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดที่ 22,886.15 จุด ลดลง 80.23 จุด หรือ 0.35% และดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 30,533.64 จุด ลดลง 191.51 จุด หรือ 0.62%
