นักลงทุนทิ้งหุ้น “ปตท.” ราคารูดเหลือ 50.75 บาท กดดันดัชนีตลาดหุ้นไทยติดลบกว่า 21 จุด ปิดที่ 1,732.51 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.4 หมื่นล้านบาท ระบุนักลงทุนกังวลรัฐออกมาตรการแทรกแซงราคาน้ำมันจนกระทบต่อกำไรหุ้นกลุ่มพลังงาน
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (24 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงทันทีตั้งแต่เปิดการซื้อขาย และเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบตลอดทั้งวัน เกิดจากนักลงทุนแห่ทิ้งหุ้นขนาดใหญ่ โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มพลังงาน ที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้ และกังวลรัฐบาลอาจจะเข้าไปแทรกแซงราคาไม่ให้สูงจนเกินไป ก่อนที่จะกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ
โดยดัชนีตลาดหุ้นลงมาแตะระดับต่ำสุดที่ 1,729.95 จุด สูงสุดที่ สูงสุดที่ 1,751.04 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายที่ 1,732.51 จุด ลดลงจากวันก่อนหน้าถึง 21.09 จุด หรือคิดเป็น 1.20% มูลค่าการซื้อขายรวม 64,406.97 ล้านบาท
สำหรับหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ PTT มูลค่าการซื้อขาย 12,216.94 ล้านบาท ปิดที่ 50.75 บาท ลดลง 2.75 บาท BANPU มูลค่าการซื้อขาย 2,788.11 ล้านบาท ปิดที่ 20.30 บาท ลดลง 1.10 บาท และ CPALL มูลค่าการซื้อขาย 2,637.81 ล้านบาท ปิดที่ 80.25 บาท ลดลง 0.50 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ประเมินว่า นักลงทุนเทขายหุ้นในกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงตั้งแต่เปิดตลาดการซื้อขาย โดยมีแรงเทขายหุ้น PTT ซึ่งเป็นหุ้นขนาดใหญ่ที่มีผลต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย ออกมาจำนวนมาก เนื่องจากกังวลว่า รัฐบาลจะออกมาตรการแทรกแซงราคาน้ำมัน ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของ PTT ด้วย
