ดัชนีตลาดหุ้นไทยปิดที่ 1,765.24 จุด ลดลง 17.04 จุด หรือร้อยละ 0.96 มูลค่าการซื้อขาย 62,148.34 ล้านบาท ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงตามตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียที่อยู่ในแดนลบ ภายหลังราคาน้ำมันปรับตัวลงไปค่อนข้างแรง และยังมีความกังวลสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน การซื้อขายหุ้นวันนี้ (3 เม.ย.) ดัชนีหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนลบตลอด โดยดัชนีแตะจุดสูงสุดที่ 1,779.04 จุด และแตะจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,764.18 จุด
นางสาสววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยได้รับปัจจัยบวกจากปัจจัยการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินตัวเลขการบริโภคของเอกชนโตร้อยละ 3.3 และมีโอกาสเพิ่มสูงขึ้น จากการเบิกจ่ายงบประมาณกลางปี 150,000 ล้านบาท ซึ่งมีมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยรวมอยู่ด้วย
สำหรับปัจจัยลบที่กดดันตลาดสัปดาห์นี้ ได้แก่ สงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ หลังจากจีนตอบโต้สหรัฐที่เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนด้วยการเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ 128 รายการ รวมถึงผลไม้ และผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับผลไม้ในอัตราร้อยละ 15 รวมถึงเนื้อหมูและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหมูในอัตราร้อยละ 25 อีกทั้งเดือนเมษายนยังเป็นช่วงเดือนวันหยุดยาวในเทศกาลสงกรานต์ คาดวอลุ่มตลาดจะเบาบางลง และหุ้นใหญ่หลายตัวจะขึ้น เครื่องหมาย XD อาทิ ADVANC, INTUCH, BANPU, BBL, KBANK, SCB และ SCC รวมทั้ง fund flow ผันผวน ในช่วง 1 เดือนย้อนหลัง นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 11,000 ล้านบาท ทำดัชนีผันผวนให้กรอบดัชนี 1,775-1,800 จุด
ด้านประเภทนักลงทุน พบว่าสถาบันในประเทศ ขายสุทธิ 1,113.08 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 215.2 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ขายสุทธิ 478.39 ล้านบาท และนักลงทุนทั่วไปในประเทศ ซื้อสุทธิ 1,376.27 ล้านบาท