นักลงทุนแห่เทขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน-ธนาคารพาณิชย์ กดดันตลาดหุ้นไทยดิ่งหนัก ปิดการซื้อขายที่ 1,766.92 จุด ลดลงกว่า 18.07 จุด หรือ 1.01% มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 8.4 หมื่นล้านบาท ระบุการยกเว้นค่าธรรมเนียนอาจส่งผลต่อกำไรกลุ่มธนาคาร บวกกับกังวลการเลื่อนโรดแมปเลือกตั้ง หลัง สนช. เตรียมยื่อนตีความ กม. ลูก ส.ส.
บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (29 มี.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในช่วงแรกของการเปิดตลาด หลังจากนั้น ได้มีแรงเทขายออกมาอย่างต่อเนื่อง กดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงมาเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ โดยลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,756.62 จุด สูงสุดที่ 1,789.00 จุด และปิดการซื้อขายที่ 1,766.92 จุด ลดลงจากวันก่อน 18.07 จุด หรือคิดเป็น 1.01% มูลค่าการซื้อขายรวม 84,249.32 ล้านบาท
โดยหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 3 อันดับแรก ได้แก่ บมจ.ปตท. (PTT) ราคาปิด 548.00 บาท ลดลง 12.00 บาท หรือคิดเป็น 2.14% มูลค่าการซื้อขาย 12,129.80 ล้านบาท บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT) ปิดที่ 66.00 บาท ลดลง 1.75 บาท หรือคิดเป็น 2.58% มูลค่าการซื้อขาย 6,620.59 ล้านบาท และ บมจ. ซีพีออลล์ (CPALL) ปิดที่ 87.25 บาท ลดลง 0.50 บาท หรือคิดเป็น 0.57% มูลค่าการซื้อขาย 3,711.14 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในช่วงบ่ายที่ติดลบกว่า 20 จุด เกิดจากแรงเทขายในหุ้นขนาดใหญ่ในกลุ่มพลังงาน และกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ที่มีการประเมินจะได้รับผลกระทบจากการยกเลิกการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัล ซึ่งจะทำให้รายได้ของธนาคารลดลงอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนจึงได้เทขายหุ้นในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ออกมาต่อเนื่องจากวันก่อนหน้า
ขณะเดียวกัน นักลงทุนยังวิตกกรณีที่อาจจะมีการเลื่อนโรดแมปการเลือกตั้งออกไป หลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) อาจยื่นร่าง พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาตีความด้วย