นักลงทุนแห่ทิ้งหุ้นแบงก์พาณิชย์ หลัง รมว.คลังส่งสัญญาณกดดันให้ปรับลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยปล่อยกู้ระหว่างลูกค้ารายใหญ่ และรายย่อย บวกกับหวั่นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีนบานปลาย ทำให้ดัชนีปิดช่วงเช้าร่วงกว่า 13.66 จุด ที่ 1,751.58 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.2 หมื่นล้านบาท
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นไทย วันนี้ (4 เม.ย.) ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงค่อนข้างแรง จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ หลังจากมีกระแสข่าว รมว.คลัง ต้องการให้ธนาคารพาณิชย์ปรับลดอัตราดอกเบี้ยสำหรับลูกค้ารายย่อย เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี บวกกับความกังวลการประกาศสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนด้วย
ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปรับตัวลดลงแตะระดับต่ำสุดที่ 1,747.19 จุด สูงสุดที่ 1,771.58 จุด ก่อนจะปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ 1,751.58 จุด ลดลง 13.66 จุด หรือคิดเป็น 0.77% มูลค่าการซื้อขายตลอดช่วงเช้า 42,036.29 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลดลงจากปัจจัยลบกรณีที่ รมว.คลัง ได้แสดงความเห็นเรื่องส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยที่แบงก์ปล่อยกู้ให้กับลูกค้ารายใหญ่ และรายเล็ก มีความแตกต่างกันมาก ทำให้ธุรกิจขนาดเล็กแข่งขันได้ลำบาก อาจจะเป็นแรงกดดันให้ธนาคารต้องลดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่ ส่งผลให้ราคาหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่เช้านี้ปรับตัวลงค่อนข้างแรง
อย่างไรก็ตาม มองหุ้นในกลุ่มแบงก์ที่โซนนี้น่าสนใจแล้ว ในแง่ของ Valuation ที่เทรด P/E 11 เท่า ซึ่งคาดว่าปีนี้ผลประกอบการของกลุ่มแบงก์น่าจะฟื้นตัวได้ ถ้าการตั้งสำรองฯ ไม่มาก
สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ดัชนีตลาดหุ้นไทยคงจะเคลื่อนไหวอยู่ในแดนลบ แนวรับอยู่ที่ 1,748 จุด ส่วนแนวต้าน 1,765 จุด