กคช. จับมือธนาคารกรุงไทย เซ็น MOU โครงการสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยดอกเบี้ยพิเศษ 2 ปีแรก ร้อยละ 2 แถมเลือกผ่อน “แสนละ 500 บาทต่อเดือน” เพื่อร่วมกันสนับสนุนให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อย ได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง อันเป็นการลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างความเป็นธรรมในสังคมตามนโยบายของรัฐบาล
นายบัญชา บัญชาดิฐ รองผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ (กคช.) กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติในฐานะรัฐวิสาหกิจ สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีภารกิจหลักในการพัฒนาที่อยู่อาศัยสำหรับผู้มีรายได้น้อย และรายได้ปานกลาง ควบคู่ไปกับการยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัย ทั้งด้านกายภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ปัจจุบันดำเนินงานภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นองค์กรหลักด้านการพัฒนาที่อยู่อาศัย ชุมชน และเมือง เพื่อความมั่นคง และยั่งยืนของสังคมไทย ซึ่งได้พัฒนาที่อยู่อาศัยทั่วประเทศแล้วกว่า 700,000 หน่วย พร้อมทั้งขับเคลื่อนภารกิจการพัฒนาที่อยู่อาศัยในโครงการเร่งด่วนตามนโยบายของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการบ้านเคหะประชารัฐ ซึ่งเป็น 1 ใน 9 เรื่องที่สำคัญภายใต้แผนแม่บทการพัฒนาที่อยู่อาศัยระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) โดยมีเป้าหมายที่จะดูแลประชาชนที่ไม่มีกรรมสิทธิ์ในที่อยู่อาศัยประมาณ 2.27 ล้านครัวเรือน พร้อมดำเนินการควบคู่ไปกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาที่อยู่อาศัย 10 ปี (พ.ศ. 2559-2568)
ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้มีรายได้น้อยเข้าถึงโครงการบ้านเคหะประชารัฐ และสามารถรับภาระการผ่อนชำระได้ การเคหะแห่งชาติ จึงได้ประสานความร่วมมือกับธนาคารกรุงไทย ในการสนับสนุนสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ในอัตราดอกเบี้ย หรือเงื่อนไขผ่อนปรนพิเศษสำหรับลูกค้าของการเคหะแห่งชาติ ซึ่งเป็นผู้มีรายได้น้อยถึงรายได้ปานกลาง เป็นการเพิ่มโอกาสให้กับลูกค้าได้มีทางเลือก และได้รับสิทธิพิเศษจากการขอสินเชื่อมากขึ้น โดยจะนำร่องในโครงการลาดกระบัง โครงการรังสิต คลอง 10/1 โครงการรังสิต คลอง 10/2 โครงการบางโฉลงทาวน์โฮม และโครงการบ้านศรีนวมินทร์ 2
ด้าน นายสุทธิรักษ์ พาทรัพย์มา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานธุรกิจภาครัฐ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า ความร่วมมือกับการเคหะแห่งชาติในโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยในครั้งนี้ ธนาคารให้วงเงินสินเชื่อพร้อมอัตราดอกเบี้ยพิเศษตามวงเงินกู้ และการทำประกันคุ้มครองความเสี่ยง โดยต่ำสุดเพียงร้อยละ 2 ต่อปีในปีแรก และลูกค้ายังสามารถเลือกผ่อนชำระ แสนละ 500 บาทต่อเดือนในปีที่ 1 สำหรับลูกค้าที่ทำประกัน อีกทั้งยังยกเว้นค่าธรรมเนียมประเมินหลักทรัพย์ สำหรับลูกค้าที่ยื่นกู้ภายในเดือนมิถุนายน 2561 โดยมีรายละเอียดดังนี้
วงเงินกู้ตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป มี 3 รูปแบบให้เลือก ดังนี้ แบบทำประกัน MRTA เต็มจำนวนกู้และระยะเวลากู้ หรือทำประกัน GLTSP เต็มวงเงินกู้ระยะทำประกัน 15 ปี อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (MRR) ลบ 1.75% ต่อปี ปีที่ 3 MRR ลบ 1.80% ต่อปี และปีต่อๆ ไป MRR ลบ 1% ต่อปี แบบทำประกัน MRTA/GLTSP เต็มวงเงินกู้ และระยะเวลาทำประกันขั้นต่ำ 10 ปี หรือทำประกัน MRTA/GLTSP ร้อยละ 70 ของวงเงินกู้ และระยะเวลากู้หรือระยะเวลาทำประกันขั้นต่ำ 15 ปี อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2% ต่อปี
ปีที่ 2 MRR ลบ 1.50% ต่อปี ปีที่ 3 MRR ลบ 1.80% ต่อปี และปีต่อๆ ไป MRR ลบ 1% ต่อปี และแบบไม่ทำประกัน อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3% ต่อปี ปีที่ 2 MRR ลบ 1.50% ต่อปี ปีที่ 3 MRR ลบ 1.50% ต่อปี และปีต่อๆ ไป MRR ลบ 1% ต่อปี
วงเงินกู้ต่ำกว่า 1 ล้านบาท มี 3 รูปแบบให้เลือกเช่นกัน ได้แก่ แบบทำประกัน MRTA เต็มจำนวนกู้ และระยะเวลากู้ หรือทำประกัน GLTSP เต็มวงเงินกู้ระยะทำประกัน 15 ปี อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2% ต่อปี ปีที่ 2 อัตรา MRR ลบ 1.50% ต่อปี ปีที่ 3 MRR ลบ 1.50% ต่อปี และปีต่อๆ ไป MRR ลบ 1% ต่อปี แบบทำประกัน MRTA/GLTSP เต็มวงเงินกู้ และระยะเวลาทำประกันขั้นต่ำ 10 ปี หรือทำประกัน MRTA/GLTSP ร้อยละ 70 ของวงเงินกู้ และระยะเวลากู้ หรือระยะเวลาทำประกันขั้นต่ำ 15 ปี อัตราดอกเบี้ยปีแรก 2% ต่อปี ปีที่ 2 อัตราดอกเบี้ย MRR ลบ 1.25% ต่อปี ปีที่ 3 MRR ลบ 1.50% ต่อปี และปีต่อๆ ไป MRR ลบ 1% ต่อปี และแบบไม่ทำประกัน อัตราดอกเบี้ยปีแรก 3.50% ต่อปี ปีที่ 2 MRR ลบ 1.50% ต่อปี ปีที่ 3 MRR ลบ 1.50% ต่อปี และปีต่อๆ ไป MRR ลบ 1% ต่อปี
- MRTA หรือ Mortgage Reducing Term Assurance คือ ประกันชีวิตคุ้มครองผู้ขอสินเชื่อ หากผู้กู้ซื้อเกิดเหตุแก่ชีวิต หรือทุพพลภาพ บริษัทที่รับทำประกันจะผ่อนชำระแทนจนกว่าจะครบสัญญาการกู้
- GLT SP หรือ Group Level Term คือ ประกันคุ้มครองหนี้ หากผู้กู้เสียชีวิตในช่วงความคุ้มครอง บริษัทที่รับทำประกันจะชำระแทนส่วนที่เหลือ และจะคืนเงินส่วนต่างจากความคุ้มครองให้กับทายาท