คอลลิเออร์สฯ ชี้สังคมไทยก้าวเข้าสู่สูงคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบในปี 2568 แนวผู้ประกอบการพัฒนาที่อยู่อาศัยรองรับกำลังซื้อ ชี้แนวโน้มเติบโตสูง เผย ณ พ.ค. 61 มีคอนโดฯ ผู้สูงอายุอยู่ระหว่างขาย 1,862 หน่วย ขายไปแล้ว 70% บ้านจัดสรร 188 หน่วย ขายไปแล้ว 85%
นายภัทรชัย ทวีวงศ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทคอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุในประเทศไทยยังมีแนวโน้มที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในปี 2561 กระจายไปหลายจังหวัดของประเทศไทย เนื่องจาก ปัจจุบัน ประเทศไทยกำลังจะเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุในไม่กี่ปีข้างหน้า ผู้ประกอบการรายใหญ่หลายรายสนใจ และพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย เพื่อรองรับความต้องการที่มีแนวโน้มขยายตัวเป็นอย่างมากในอนาคต
จากข้อมูลรายงานการคาการณ์ประชากรของประเทศไทย ปี 2553-2583 ของสำนักกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (คสช.) พบว่า ประเทศไทย ได้เข้าสู่ “สังคมผู้สูงอายุ” ตั้งแต่ปี 2553 ซึ่งปัจจุบัน ประเทศไทยมีประชากรประมาณ 66.2 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป จำนวน 9.4 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 14.5 ของประชากรทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 5 แสนคน คาดว่าภายในปี 2568 ไทยจะก้าวเข้าสู่การเป็นสังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ (Aged Society) โดยผู้สูงอายุจะมีประมาณ 14.4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด เฉลี่ยผู้สูงอายุ 1 คนต่อประชากรทุกๆ 5 คน ขณะที่สหประชาชาติ ระบุชัดว่า ประเทศใดมีประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ในสัดส่วนเกินร้อยละ 10 ของประชากรทั้งประเทศ ถือว่าประเทศนั้น ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุเต็มรูปแบบแล้ว
สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย ทั้ง RETIREMENT & NURSING HOME PROJECT ในประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ถือว่ามีแนวโน้มขยายตัวเป็นอย่างมาก เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าวัยเกษียณที่ปัจจุบันมีจำนวนมากในประเทศไทย ส่งผลให้ ณ เดือนพฤษภาคม ปี 2561 ประเทศไทยมีที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยในประเภทคอนโดมิเนียมที่อยู่ระหว่างการขายทั้งหมดประมาณ 1,862 หน่วย ขายไปแล้วประมาณ 70% และบ้านจัดสรรที่อยู่ระหว่างการขายประมาณ 188 หน่วย ขายไปแล้วประมาณ 85% จะเห็นได้ว่า แทบทุกโครงการมุ่งสนองความต้องการด้านสุขภาพผู้สูงอายุ เลือกใช้วัสดุตกแต่งบ้านสำหรับผู้สูงอายุ และยังให้ความสำคัญทั้งในด้านดีไซน์ที่สวยงาม และทันสมัย เลือกใช้นวัตกรรมภายในบ้านที่อำนวยความสะดวกให้ผู้สูงอายุ อีกทั้งยังคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก ซึ่งจะช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีให้ผู้สูงอายุอีกด้วย
สำหรับจังหวัดที่ผู้ประกอบการให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุ คือ กลุ่มจังหวัดในพื้นที่รอบๆ กรุงเทพมหานคร และจังหวัดใหญ่ในแต่ละภูมิภาค เช่น เชียงใหม่, นครราชสีมา, ประจวบคีรีขันธ์ และชลบุรี ซึ่งแต่ละจังหวัดส่วนใหญ่จะเป็นจังหวัดสำคัญในด้านการท่องเที่ยวที่สภาพแวดล้อมค่อนข้างเหมาะสำหรับพักอาศัย อากาศดี ไม่แออัด เนื่องจากในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัย จะใช้พื้นที่ค่อนข้างกว้าง เพื่อการพักผ่อน และอยู่อาศัยที่มีคุณภาพสำหรับผู้สูงวัย
ตลาดที่อยู่อาศัยของผู้สูงวัยในประเทศไทยส่วนใหญ่ผู้ประกอบการนิยมพัฒนาเป็นคอนโดมิเนียม ซึ่งคิดเป็น 91% หรือประมาณ 1,862 หน่วย และบ้านเดี่ยว 9% ประมาณ 188 หน่วย เนื่องจากคอนโดมิเนียมราคาขายจะไม่สูงมากเมื่อเทียบกับบ้านจัดสรร และขนาดพื้นที่ใช้สอยไม่มาก และสามารถดูแลผู้สูงวัยได้ง่าย และทั่วถึงมากกว่าบ้านจัดสรร ซึ่งส่วนใหญ่บ้านจัดสรรผู้ประกอบการจะมีการเน้นพัฒนาในต่างจังหวัดที่เป็นเมืองท่องเที่ยว
ปัจจุบัน ผู้ประกอบการในตลาดหลัดทรัพย์หลายรายให้ความสนใจในการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยเป็นอย่างมาก เช่น บมจ. แอล พี เอ็น ดีเวลลอปเมนท์ ที่พัฒนาโครงการนำร่อง เช่น โครงการลุมพินี วิลล์ ราชพฤกษ์-บางแวก เป็นคอนโดโลวไรส์ (Low rise) ในย่านบางแวก ชูคอนเซ็ปต์ “ชุมชนน่าอยู่สำหรับผู้สูงวัย” โดยทาง LPN ได้จัดทำทั้งพื้นที่ส่วนกลาง และภายในห้องชุดสำหรับผู้สูงวัย ให้มีห้องกิจกรรมผู้สูงอายุ เพิ่มราวจับเพื่อประคองตัวในห้องน้ำ วัสดุปูพื้นกันลื่น ปุ่มฉุกเฉินภายในห้องพัก 2 ปุ่ม โดยเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ภายในห้องชุดไม่มีเหลี่ยมมุม มีทางลาดชัน รวมถึงมีห้องพยาบาลเบื้องต้นอีกด้วย ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.3 ล้านบาท
นอกจากนี้ ยังมีโครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ โดย LPN คอนโดแนวคิด Pleasure Family แบบการรวมกลุ่มคน 3 วัย ให้อยู่ร่วมกันอย่างลงตัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป โดยนำร่องที่โครงการลุมพินี วิลล์ นาเกลือ-วงศ์อมาตย์ ด้วยการออกแบบห้องชุดอาศัยที่นำรายละเอียดของ “Universal Design” เพื่อรองรับกับการใช้ชีวิตของผู้สูงวัย ขนาดห้อง 34 ตารางเมตร ออกแบบรายละเอียดภายในห้องเพื่อความสะดวกในกรณีที่ต้องใช้ Wheel chair เพิ่มราวจับในห้องน้ำ เพื่อความปลอดภัย รวมถึงวัสดุอุปกรณ์ทุกชิ้นในห้องที่ไม่มีเหลี่ยมมุม ปุ่มฉุกเฉินในกรณีต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน ราคาเริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบัน ทาง LPN กำลังเปิดตัวโครงการในรูปแบบดังกล่าวในกรุงเทพฯ ได้แก่ โครงการลุมพินี พาร์ค รัตนาธิเบศร์ อีกโครงการหนึ่ง
โครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุจะมีปัจจัยแห่งความสำเร็จ คือ การสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า หรือผู้ที่มาพักอาศัย ว่าจะสามารถดูแลและรักษาพยาบาลเป็นอย่างดีตลอดชีวิตจนกว่าจะสิ้นลมหายใจ โครงการต้นแบบที่ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากสำหรับโครงการที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุ คือ โครงการอาคารชุดของสวางคนิเวศ ซึ่งเป็นต้นแบบที่ดีของโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก และปิดการขายอย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้สูงอายุที่เป็นลูกค้า ทางโครงการจะมีทีมแพทย์และพยาบาลจากสภากาชาดไทย มาเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด และคิดค่าบริการทางการแพทย์เทียบเท่ากับระดับราคาในโรงพยาบาลของรัฐเท่านั้น
“อาคารสวางคนิเวศ” โครงการอยู่ภายใต้การกำกับของสภากาชาดไทย ซึ่งเป็นอาคารต้นแบบสำหรับให้ผู้สูงอายุ สุขภาพดี พักอาศัย ตั้งอยู่ที่จังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งแต่ละห้องสามารถอยู่ได้ 2 คน และเมื่อเจ้าของเสียชีวิต ห้องจะถูกนำไปเปิดให้จองต่อไป แต่ไม่สามารถโอนสิทธิให้บุคคลอื่นได้ นอกจากสามีภรรยาตามกฎหมาย หรือตามเงื่อนไขที่โครงการกำหนด ผู้ที่จะจองห้องพักในสวางคนิเวศได้ ต้องเป็นผู้มีอายุมากกว่า 55 ปี ที่พร้อมเข้าอยู่อาศัยประจำ และร่วมกิจกรรมกับทางอาคาร โดยมีค่าส่วนกลาง 2,500 บาท เก็บล่วงหน้า 5 เดือน ค่าไฟฟ้า ประปา และบริการอื่นๆ เช่น ค่ากายภาพบำบัด, บริการรถตู้, ค่าอาหาร, ของใช้ส่วนตัว และค่ารักษาพยาบาล
สำหรับบริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งที่ผ่านมา พัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงวัยแล้วถึง 3 โครงการ และแต่ละโครงการก็ได้รับความสนใจจากกลุ่มผู้ซื้ออย่างเป็นที่น่าพอใจ ซึ่งนอกจากนี้ ยังมีอีก 1 โครงการที่น่าสนใจที่เตรียมเปิดการขายในปีนี้ คือ โครงการ Kamala Senior Living ซึ่งเป็นการร่วมทุนระหว่าง NYE ESTATE , LPN Development, Chewathai, และ ช.การช่าง Kamala Senior Living (กมลา ซีเนียร์ ลีฟวิ่ง) ตั้งอยู่ภายในพื้นที่ของโครงการ MontAzure Phuket คอมมิวนิตีระดับซูเปอร์ไฮเอนด์ ขนาดพื้นที่ 454 ไร่ ใจกลางชายหาดและฝั่งตะวันตกของหาดกมลา หนึ่งในหาดที่สวยงามของภูเก็ต ตัวโครงการประกอบด้วยคอนโด 200 ยูนิต และวิลลาอีก 30 ยูนิต มูลค่า 3,500 ลบ.
นอกจากนั้น ยังมีโครงการของภาครัฐอย่างกรมธนารักษ์ ที่มีโครงการก่อสร้างบ้านเพื่อผู้สูงวัยใน 20 จังหวัด มีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้สูงวัยที่มีรายได้ไม่สูงมาก โครงการแรก คือ บ้านสำหรับผู้สูงอายุครบวงจร จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) มีแผนพัฒนาโครงการบ้านเพื่อผู้สูงอายุใน 4 พื้นที่ คือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 600 ยูนิต จ.เชียงใหม่ 300 ยูนิต อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา 300-600 ยูนิต และ จ.เชียงราย
สำหรับโครงการที่อยู่อาศัยของผู้สูงอายุที่น่าสนใจ ได้แก่ 1. วิลล่า มีสุข เรสซิเดนท์เซส ถนนแม่โจ้พร้าว ต. หนองหวาน อ.สันทราย จ. เชียงใหม่ รูปแบบโครงการ เป็น คอนโดมิเนียม ขนาด 48 ตาราเมตร จำนวน 28 ยูนิต ราคาขายประมาณ 3.4 ล้านบาท และบ้านเดี่ยว 6 หลัง ขนาด ราคาประมาณ 5.5 ล้านบาท
2. โครงการสวางคนิเวศ ถ.สุขุมวิท อ.เมือง จ.สมุทรปราการ รูปแบบโครงการเป็นคอนโดมิเนียม เปิดทำการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2539 มีทั้งหมด 2 เฟส ประกอบด้วย อาคารชุด 6-8 ชั้น 9 อาคาร รวม 648 ห้องชุด มีห้องทั้งหมด 3 แบบ ได้แก่ ขนาดห้อง 33 ตารางเมตร มี 168 ห้อง ราคาสนับสนุนค่าห้อง 650,000 บาท ขนาดห้อง 40-41.50 ตารางเมตร ราคาสนับสนุนค่าห้องเริ่มต้น 800,000 บาทขึ้นไป และขนาดห้อง 41.50-60 ตารางเมตร มีห้องน้ำในตัว และระเบียง ราคาสนับสนุนค่าห้องเริ่มต้น 900,000-1,800,000 บาท ค่าส่วนกลาง 2,500 บาทต่อเดือน
3. โครงการ จิณณ์ เวลบีอิ้ง เคาน์ตี้ (Jin Wellbeing County) ตั้งอยู่บนพื้นที่ 140 ไร่ ริมถนนพหลโยธิน รังสิต อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี สำหรับเฟสแรก ประกอบด้วย 3 ส่วนหลักได้แก่ Active Living ส่วนที่พักอาศัยอาคาร Low-rise 7 ชั้น ขนาด 43 ตร.ม. และ 63 ตร.ม. จำนวน 13 อาคาร รวม 1,300 ยูนิต โดยจะเปิดขาย 2 คลัสเตอร์ คลัสเตอร์แรก 500 ยูนิต ราคาเริ่มต้น 3.5 ล้านบาท ซึ่งจะมีอาคาร Pet Friendly จัดให้ไว้สำหรับผู้ที่รักสัตว์เลี้ยงเลี้ยงโดยเฉพาะด้วย Aged Care Center อาคารสำหรับผู้สูงอายุที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ ภายในประกอบด้วย ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบรายวัน (Day care) และแบบพักค้างคืน (Nursing home), คลินิกรักษาโรคทั่วไป และศูนย์กายภาพ Clubhouse & Wellness Center ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ สปา, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และบริการเพื่อสุขภาพเพื่อให้บริการทางการแพทย์เพื่อป้องกัน รักษา และฟื้นฟู ด้วยทีมบุคลากรทางการแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญ ทั้งยังมีคลาสกิจกรรมต่างๆ เพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของผู้สูงวัย และครอบครัว
4. โครงการ ซีเนียร์ คอมเพล็กซ์ กรุงเทพธนบุรี ด้านหลัง มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี ถนนเลียบคลองทวีวัฒนา เขตทวีวัฒนา กทม. เป็นอาคารพักอาศัยจำนวน 12 อาคาร (อาคารละ 4 ชั้น 36 ยูนิต) จำนวนห้องทั้งหมด 432 ยูนิต แบบ A ขนาด 31 ตร.ม. ราคา 1,800,000 บาท, แบบ B ขนาด 33 ตร.ม. ราคา 1,800,000 บาท และแบบ C ขนาด 44 ตร.ม. ราคา 2,000,000 บาท ค่าส่วนกลาง 4,000 บาทต่อเดือน ปัจจุบันเปิดขายเบื้องต้น 4 อาคาร จำนวน 144 ยูนิต รูปแบบการขาย เป็นการขายสิทธิการเข้าอยู่อาศัย 1 ห้องพักอาศัยได้ไม่เกิน 2 คน สามารถอยู่อาศัยตลอดชีวิต
5. โครงการ Sunplay Bang Saray เป็นคอนโด Low Rise ระดับ hi-end มูลค่าโครงการ 3,500 ลบ. เป็นชุมชนขนาดใหญ่ บนเนื่อที่ 125 ไร่ โดยแบ่งเป็นพื้นที่สำหรับการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัย (วิลลา และคอนโดฯ) ประมาณ 12,500 ตร.ม. และอีก 5,000 ตร.ม. สำหรับ The Sunplay Club และพื้นที่สีเขียวโดยรอบ ราคาเริ่มต้น 108,000 บาทต่อ ตร.ม. เป็นโครงการที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุใช้ชีวิตหลังเกษียณภายใต้คอนเซ็ปต์ใหม่ ที่เน้นไลฟ์สไตล์แนวแอ็กทีฟบนทำเลทองของบางเสร่ ซึ่งตั้งอยู่ทางชายฝั่งตะวันออกของไทย
6. โครงการ ริม ลิฟวิ่ง โคราช มูลค่าโครงการ 1,000 ล้านบาท บนพื้นที่ 50 ไร่ บนทำเลที่ตั้งที่เหมาะสม มีธรรมชาติที่ร่มรื่น และสวยงามถนนราชสีมา-ปักธงชัย ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา ประกอบการด้วยโครงการหลัก 3 ส่วน ด้วยกัน คือ 1. โครงการสถานพยาบาล 2. อาคารกิจกรรม และสังคมสมาชิก และ 3. ที่พักอาศัยเฉพาะทางต่างๆ อาทิ ศูนย์ความงาม ศัลยกรรมตกแต่ง, ศูนย์ทันตแพทย์, คลินิกแพทย์แผนจีน ชั้น 3 ประกอบด้วย แผนบริการสปาเพื่อสุขภาพ, ห้องอาหาร, ห้องประชุมสัมมนา และโรงเรียนราชสีมาการบริบาล สำหรับเฟส 2 จะเป็นการสร้างอาคารชุด หรือคอนโดมิเนียม สูง 5 ชั้น 2 อาคาร อาคารละ 34 ยูนิต มีทั้งขนาดพื้นที่ 70 ตร.ม. 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และขนาด 100 ตร.ม. 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ในลักษณะคอมมูนิตีมอลล์ ส่วนเฟส 3 จะเป็นที่พักอาศัย คล้ายกับบ้านจัดสรรอีก 250 ยูนิต ที่ออกแบบเพื่อรองรับการอยู่อาศัยแบบอิสระ หรือ Independent Home Living และมีอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้สูงอายุเตรียมพร้อมไว้ในบ้านทุกหลัง เพื่ออนาคตที่ต้องเข้าสู่วัยชรา