xs
xsm
sm
md
lg

ส.นักวิเคราะห์ฯ มองเป้าดัชนี SET ปีนี้ที่ 1,850 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ส.นักวิเคราะห์ฯ มองเป้าดัชนี SET ปีนี้ที่ 1,850 จุด ระบุการเข้าสู่ช่วงท้ายตลาดกระทิงปี 61-62 ฉุด Upside ไม่มาก

นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน (IAA) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ เปิดเผยว่า มีมุมมองสอดคล้องกับสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) โดยยังคงเป้าดัชนีหุ้นไทยทั้งปีนี้ที่ 1,850 จุด หลังมองว่าในช่วงปี 61-62 ภาวะตลาดหุ้นไทยจะอยู่ในช่วงท้ายของตลาดกระทิง (Bullish) ซึ่งจะมี Upside ไม่มาก และมีโอกาสเกิดความผันผวนจากกระแสเงินไหลออก เนื่องจากอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้รัฐบาล (Bond Yield) และอัตราดอกเบี้ยของโลกทั้งระยะสั้น และระยะยาว มีความไม่สอดคล้องกัน หรือมี yield curve ที่ flat เกินไป อีกทั้งยังมีการปรับตัวเข้าสู่สภาวะปกติได้ค่อนข้างช้า โดยคาดว่าจะใช้ระยะเวลาการปรับตัวราว 2-3 เดือน

ทั้งนี้ เป็นสัญญาณที่ทำให้คาดว่า เศรษฐกิจโลกอาจกำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย หรืออีกในมุมหนึ่งอัตราดอกเบี้ยระยะยาวอาจมีการปรับตัวสูงขึ้น ซึ่งไทยเองก็ได้รับผลกระทบจาก yield curve เนื่องจากทำให้นักลงทุนเริ่มมีความระมัดระวังในการเข้าลงทุนมากขึ้น ซึ่งถ้าอัตราดอกเบี้ยปรับตัวเข้าสู่ปกติ เชื่อว่าจะมีกระแสเงินไหลเข้า เนื่องจากประเทศไทยมีพื้นฐานเศรษฐกิจค่อนข้างดี จากการส่งออก และการท่องเที่ยว ที่มีการเติบโตต่อเนื่อง รวมถึงมีการเกินดุลบัญชีเดินสะพัดค่อนข้างมาก

เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดในเขตภูมิภาคอาเซียน อาทิ อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ ที่โดนแรงเทขายอย่างหนัก และมีกระแสเงินไหลออกจำนวนมาก จากการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด และยังมีหนี้จากต่างประเทศสูง อีกทั้งเศรษฐกิจยังไม่รองรับการขาดสภาพคล่องในตลาด

นายไพบูลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับประเด็นการระดมทุนด้วยรูปแบบของการเสนอขายสินทรัพย์ดิจิทัลให้แก่ประชาชนครั้งแรก (ICO) ปัจจุบันยังมีความไม่ชัดเจนในข้อกฎหมายเกี่ยวกับการเก็บภาษีในเม็ดเงินที่บริษัทระดมทุนมา ซึ่งหากถูกประเมินว่าเป็นรายได้ และไม่มีการยกเว้นภาษี จะทำให้การระดมทุนแบบ ICO ในประเทศมีความน่าสนใจลดลง ส่วนการเก็บภาษีกำไรจากการขายทรัพย์สิน (Capital Gain Tax) มองว่าปัจจุบันยังไม่ใช่ประเด็นใหญ่ที่น่ากังวลนัก

นอกจากนั้น วิธีการระดมทุนแบบ ICO เป็นช่องทางการระดมทุนสำคัญสำหรับธุรกิจ Startup ซึ่งรัฐบาลเองก็มีความต้องการ และผลักดันให้ประเทศไทยเป็น Startup Hub โดยมองว่า การจัดเก็บภาษีจะต้องมีมาตรฐานสากล และสามารถแข่งขันกับต่างประเทศได้ เช่น สิงคโปร์ ซึ่งยังต้องติดตามการตีความ และการออกกฎหมายต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น