บมจ. เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ไตรมาส 1/61 ขาดทุนสุทธิกว่า 4,087 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนกว่า 3,511 ล้านบาท คิดเป็น 610% เหตุรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่เข้าเป้า และแบกภาระการขาดทุนจากการด้อยค่าในสินทรัพย์กว่า 3,400 ล้านบาท
นายสรพจน์ เตชะไกรศรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE แจ้งผลการดำเนินงานประจำไตรมาสแรก สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มีนาคม 2561 ว่า บริษัทและบริษัทย่อยขาดทุนสุทธิ 4,087.22 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.459 บาท เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 575.64 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิต่อหุ้น 0.153 บาท หรือขาดทุนสุทธิเพิ่มขึ้นกว่า 3,511.58 ล้านบาท คิดเป็น 610.03%
ผลการดำเนินงานของบริษัทในไตรมาสแรกปี 61 เทียบกับปี 60 นั้น บริษัทมีรายได้รวม 1,235 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน 51% แบ่งเป็นรายได้จากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 541 ล้านบาท ลดลง 69% เนื่องจากไตรมาสที่ 1 ปีนี้ มีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดพักอาศัย เดอะ ริทซ์-คาร์ลตัน เรสซิเดนเซส บางกอก เพียง 6 เรสซิเดนซ์ ซึ่งน้อยกว่าช่วงเวลาเดียวกันปีก่อนที่มีการรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดดังกล่าวสูงถึง 21 เรสซิเดนซ์ ขณะเดียวกัน บริษัทฯ รับรู้รายได้จากการโอนกรรมสทิธิ์วิลล่าตากอากาศในโครงการมหาสมุทร จำนวน 1 วิลลา
รายได้จากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกูร์เม่ต์ดีน แอนด์ เดลูก้า 636 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 10% และรายได้อื่นๆ รวมถึงการรับรู้รายได้ค่าธรรมเนียมเครื่องหมายการค้าและชื่อทางการค้า “ดีน แอนด์ เดลูก้า” จำนวน 58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 278%
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 1 ปี2561 รวม 474 ล้านบาท (ร้อยละ 38 ของรายได้รวม) ลดลง 46% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 871 ล้านบาท ประกอบด้วย กำไรขั้นต้นจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ 156 ล้านบาท ลดลงจากปีก่อน 70% กำไรขั้นต้นจากธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มกูร์เมต์ จำนวน 318 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 10% จากช่วงเวลา
สำหรับด้านค่าใช้จ่าย บริษัทมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร และการด้อยค่าในสินทรัพย์ จำนวน 4,325 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 350 ของรายได้รวม เพิ่มขึ้นร้อยละ 235 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่ 1,291 ล้านบาท โดยค่าใช้จ่ายหลัก ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายในการขาย 454 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 28 ค่าใช้จ่ายในการบริหาร 471 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 และขาดทุนจากการด้อยค่าในสินทรัพย์ 3,400 ล้านบาท