สำนักวิเคราะห์ของบริษัทโบรกเกอร์หลายแห่งทยอยกันประกาศ ปรับลดประมาณการเป้าหมายดัชนีราคาหุ้น ตลาดหลักทรัพย์ ตัวเลขล่าสุดส่วนใหญ่ทำนายกันว่า ปลายปีนี้ดัชนี ฯ จะไปไม่ถึง 1,900 จุด
ช่วงต้นปีที่ตลาดหุ้นคึกคัก หลังดัชนี ฯ ขยับขึ้นไปสร้างสถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ แตะที่ระดับ 1,850 จุด นักวิเคราะห์หุ้นแห่กันออกมาตั้งเป้าหมายดัชนี ฯ อย่างสวยหรู ส่วนใหญ่ประเมินว่า จะทะลุ 1,900 จุด โบรกเกอร์บางสำนักฟันธงว่า จะยืนเหนือ 2,000 จุดด้วยซ้ำ
แต่วันนี้ไม่มีใครพูดถึงตัวเลข 2,000 จุดแล้ว ส่วนตัวเลข 1,900 จุดยังพูดถึงกันอยู่บ้าง
ทิศทางตลาดหุ้นเริ่มผันแปร เพราะมีหลายปัจจัยแทรกซ้อน ทั้งจากภายนอกและภายใน โดยดอกเบี้ยสหรัฐอยู่ในช่วงขาขึ้น ขณะที่สถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศเริ่มวุ่น ๆ
ปีนี้ไม่มีการเลือกตั้งแน่นอนแล้ว ส่วนปีนี้ก็ยังหวั่น ๆ ว่า อาจเลื่อนออกไปอีก และจะเป็นชนวนความวุ่นวายทางการเมือง
ส่วนนักลงทุนต่างชาติ ทยอยขนเงินกลับ ขายหุ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงวันที่ 9 พฤษภาคมที่ผ่านมา ต่างชาติมียอดขายสุทธิสะสมทั้งสิ้น 94,169.42 ล้านบาท
และเพียง 8 วันทำการของเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2561 ขายสุทธิไปแล้วกว่า 14,602.48 ล้านบาท โดยไม่มีสัญญาณการกลับมาซื้อหุ้น
บรรยากาศการซื้อขายหุ้นที่ซึม ๆ ดัชนี ฯ ที่ทรง ๆ ทรุด ๆ เป็นผลพวงจากการขายของต่างชาติ และขายทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะมีข่าวดีหรือข่าวร้าย โดยเวียนขายหุ้นขนาดใหญ่กลุ่มพลังงาน สื่อสารและธนาคารพาณิชย์
นักลงทุนรายย่อยกำลังเกิดอึดอัดกับสภาพตลาดหุ้นที่เคลื่อนไหวอย่างไร้ทิศทาง เนื่องจากขาดปัจจัยชี้นำ ดัชนี ฯ ถูกจำกัดให้เคลื่อน ไหวในกรอบแคบ ๆ ระหว่าง 1,750-1,800 จุดมาพักใหญ่ และไม่เห็นโอกาสที่ดีในการทำกำไรจากการซื้อขายหุ้น
ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสที่ 3 ส่วนใหญ่ประกาศออกมาแล้ว แต่ไม่ได้ช่วยกระตุ้นการลงทุนแต่อย่างใด
การทำเงินจากตลาดหุ้น ไม่ใช่งานง่ายเสียแล้ว เพราะความเสี่ยงสูง โดยตลาดหุ้นพร้อมซึมซับรับข่าวร้ายมากกว่า และจะดิ่งลงรุนแรงได้ทันที ถ้ามีปัจจัยที่กระทบต่ออารมณ์ความรู้สึกของนักลงทุน
ซึ่งเมื่อวันพุธที่ 8 พฤษภาคมที่ผ่านมา รูดลงเกือบ 20 จุด เพราะความกังวลการขึ้นดอกเบี้ยของสหรัฐ
อีก7-8 เดือนข้างหน้า ไม่อาจทำนายได้ว่า ทิศทางหุ้นจะเป็นอย่างไร เพราะไม่มีข่าวดีที่รอคอย ไม่มีสัญญาณการกลับมาของต่างชาติ
มีแต่ปรากฏการณ์การขายอย่างไม่ยั้งมือของต่างชาติ และขายหุ้นในหลายประเทศภูมิภาคเอเชีย เพื่อย้ายเงินกลับไปลงทุนในสหรัฐ ดักแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น
นักลงทุนคงต้องยืนคุมเชิง รอดูสถานการณ์ไปก่อน เพราะบุกช่วงนี้มีแต่วิ่งชนกำแพง มีแต่ความเสี่ยง ไม่เห็นโอกาสการเก็บเกี่ยวกำไรเป็นกอบเป็นกำ
แต่จะยืนคุมชิงกันอีกนานเท่าใด ต้องรอดูสถานการณ์อีกยาวไหม ไม่มีใครตอบได้ รู้แต่ว่า ในระยะสั้น นักลงทุนควรพักรบชั่วคราว ลดวงเงินลงทุน ลดความถี่ในการซื้อขาย
และพักรบจนกว่าจะมีปัจจัยชี้นำใหม่เข้ามากระตุ้นตลาดหุ้น หรือจนกว่าต่างชาติจะเริ่มหยุดขาย จึงทยอยเข้ามาเก็บหุ้นรอบใหม่
ช่วงนี้พยายามอยู่ห่าง ๆ ตลาดหุ้นไว้ ปลอดภัยที่สุด
(สั่งจองหนังสือ “หุ้นวายร้าย” ราคาเล่มละ 190 บาท จากราคาเต็ม 240 บาท โทร. 0-2629-2700 , 08-2782-8353 , 08-2782-8356 )