xs
xsm
sm
md
lg

สคร. ยันแผนออกกองทุนฯ กทพ.เกิดช่วง มิ.ย.-ก.ค. นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ” เผยความคืบหน้าแผนขายหน่วยลงทุนในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานของ กทพ. ระบุ อัยการเสร็จสิ้นการตรวจสอบร่างสัญญาการโอนรายได้ฯ 45% จากโครงการทางพิเศษฉลองรัฐ (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เพื่อโอนรายได้ในอนาคต 45% ให้แก่กองทุนฯ เป็นเวลาระยะเวลา 30 ปี เพื่อจ่ายเป็นผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนแล้ว และ สคร. เตรียมพิจารณารายละเอียดก่อนส่งร่างกลับให้บอร์ด กทพ. พิจารณาอีกครั้ง หากไม่มีข้อสังเกตเพิ่มเติม เตรียมยื่นขอไฟลิ่งตั้งกองทุนฯ กับ ก.ล.ต. คาด ขายหน่วยลงทุนช่วงเดือน มิ.ย. - ก.ค. นี้

นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย ว่าอัยการได้ตรวจร่างสัญญาการโอนและรับสิทธิ์โอนรายได้ (RTA) ในโครงการทางพิเศษฉลองรัฐ (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เพื่อโอนรายได้ในอนาคตที่ 45% ให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ เป็นเวลาระยะเวลา 30 ปี เพื่อจ่ายเป็นผลตอบแทนให้แก่นักลงทุนเสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้ สคร. จะพิจารณาในรายละเอียดตามร่างสัญญาที่อัยการส่งมา แต่หากมีส่วนใดที่ต้องปรับปรุงแก้ไขแล้ว สคร. จะเร่งดำเนินการก่อนที่จะส่งร่างสัญญาดังกล่าวให้คณะกรรมการการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) พิจารณาอีกครั้งหนึ่ง และหากไม่มีข้อสังเกตใดๆ เพิ่มเติมจาก กทพ. อีก ทาง สคร. ก็จะดำเนินการยื่นเรื่องเพื่อขอจดทะเบียนขายหน่วยลงทุน (ไฟลิ่ง) กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ต่อไป

ผู้อำนวยการ สคร. ยังย้ำว่า ตอนนี้กระบวนการต่างๆ ในการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์นั้นพร้อมหมดแล้ว แต่อาจยังติดปัญหาบางส่วนโดยเฉพาะการยื่นเรื่องในนามบุคคลต่อศาลปกครองสูงสุด เพื่อให้มีการยกเลิกการขายหน่วยลงทุนของกองทุน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ศาลปกครองสูงสุดได้มีคำสั่งไม่รับคำอุทธรณ์ของสหภาพแรงงาน กทพ. ที่ยื่นเรื่องต่อศาลปกครองเพื่อขอให้พิจารณายุติการขายหน่วยลงทุน ส่วนกระบวนการหลังจากนี้จะเดินหน้าได้เมื่อไหร่นั้น คงขึ้นอยู่กับศาลด้วยว่าจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ออกมาอย่างไร

นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สคร. กล่าวเพิ่มเติมโดยเบื้องต้นยืนยันแผนการเดิมเดิมในการขายหน่วยลงทุนว่าจะเกิดขึ้นในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค. นี้ ทั้งนี้ จากการหารือร่วมกันกับ กทพ. ก่อนหน้านี้ โครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก วงเงินลงทุน 3.04 หมื่นล้านบาท จะต้องเปิดให้มีการประกวดราคานานาชาติ ซึ่งจะมีกระบวนการที่ซับซ้อน จึงทำให้ยังมีเวลาพอที่จะเปิดขายหน่วยลงทุนได้ตามแผนงาน อย่างไรก็ตาม หากยังไม่สามารถเปิดขายหน่วยลงทุนได้ทันตามแผนการใช้เงินของ กทพ. ก็ได้มีการเตรียมแผนรองรับ โดยจะให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) ดำเนินการกู้เงินระยะสั้นเพื่อรองรับการดำเนินการไปพลางก่อนได้

ทั้งนี้ เงินที่ กทพ. จะได้รับจากการขายหน่วยลงมลทุนนั้นมีวัตถุประสงค์ เพื่อที่จะนำไปใช้ก่อสร้างโครงการทางพิเศษพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนรอบนอกกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ซึ่งมีวงเงินลงทุนรวม 3.04 หมื่นล้านบาท และโครงการทางด่วนขั้นที่ 3 สายเหนือตอน N2 และ E-W corridor ด้านตะวันออก วงเงินลงทุนรวม 1.43 หมื่นล้านบาท โดยคาดว่าน่าจะเริ่มเซ็นสัญญาก่อสร้างได้ภายในกลางปี 61 ด้วยเช่นกัน


กำลังโหลดความคิดเห็น