ผู้ถือหุ้น “ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป” อนุมัติจ่ายปันผลหุ้นละ 0.05 บาท พร้อมจ่ายเงิน 9 พ.ค. นี้ ด้าน “เชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์” มั่นใจปีนี้ยังเป็นปีแห่งการเติบโตต่อเนื่อง โดยรายได้เติบโต 20% แตะ 3 หมื่นล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ และเดินหน้าขยายธุรกิจทั้ง 3 แกนหลัก เน้นขายสินค้ามาร์จินสูง
นายเชิดศักดิ์ กู้เกียรตินันท์ ประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ บริษัทไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG เปิดเผยว่าเมื่อวันที่ 23 เม.ย. 2561 ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2561 ได้อนุมัติจ่ายเงินปันผลในงวดปี 2560 ในอัตราหุ้นละ 0.05 บาท โดยได้ขึ้นเครื่องหมายวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) ในวันที่ 9 มีนาคมที่ผ่านมา และกำหนดจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดภายในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561
ทั้งนี้ บริษัทฯ เชื่อมั่นว่า ในรอบปี 2561 Year of Further Growth ปีแห่งการเติบโตต่อเนื่อง และได้วางเป้าหมายตามแผนธุรกิจที่จะสร้างรายได้ให้เติบโตราว 20% หรือเป้าหมายรายได้ ประมาณ 30,000 ล้านบาท โดยการขยายธุรกิจทั้ง 3 แกน คือ ไก่ สุกร และ อาหารสัตว์ โดยกำหนดตำแหน่งการแข่งขันเป็น ผู้ผลิตที่มีต้นทุนต่ำ (Low Cost Producer)
บริษัทฯ ประเมินว่า สภาวะราคาไก่ในประเทศจะค่อย ๆ ขยับตัวสูงขึ้น จากการส่งออกไก่แช่แข็ง และปรุงสุก ด้านราคาสุกรในประเทศ จะค่อยปรับตัวสูงขึ้น ตามอุปสงค์ อุปทานของตลาด อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังต้องบริหารความเสี่ยงทางการเงิน ราคาตลาดของไก่ และสุกร ต้นทุนวัตถุดิบนำเข้าและในประเทศ และอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทต่อดอลลาร์lสหรัฐฯ รวมถึงป้องกันโรคระบาดของไก่และสุกรอย่างระมัดระวังขั้นสูงสุด
นอกจากนี้ ผลประกอบการที่ผ่านมา สามารถสร้างรายได้สูงขึ้น และกำไรสุทธิต่อเนื่อง 2 ปีติดต่อกัน โดยปี 2560 มีรายได้รวมอยู่ที่ 25,913 ล้านบาท เติบโต 5,134 ล้านบาทหรือ 24.7% จากปี 2559 (สูงกว่าเป้าหมายที่ 20%) ดังนั้น เพื่อเป็นการสร้างความยั่งยืนระยะยาวของผลประกอบ และ สร้างความชำนาญในการผลิต (core competency) บริษัทฯ กำลังเดินหน้าเต็มตัวเข้าสู่แผน TFG 4.0 เป้าหมายปรับฐานเทคโนโลยีในการผลิตและ ความชำนาญของบุคลากรทุกด้าน เพื่อลดต้นทุนการผลิตและแรงงาน และเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ประกอบด้วย การเพิ่มออโตเมติกไลน์ชำแหละไก่ การเพิ่มเครื่องฟักไข่ที่ทันสมัย การเพิ่มการใช้หุ่นยนต์ในการบรรจุถุงอาหารสัตว์ การตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์ใหม่แบบครบวงจร ปรับปรุงระบบจัดเก็บวัตถุดิบ และระบบการผลิตโดยเครื่องจักรที่ทันสมัย และใช้แรงงานน้อยสุด
สำหรับรายได้ บริษัทฯ ปรับเพิ่มการผลิตสินค้าไก่แช่แข็งและไก่ปรุงสุก เข้าสู่ตลาดส่งออกเต็มรูปแบบที่ได้กำไรขั้นต้นสูงกว่า เพิ่มการผลิตของโรงงานชำแหละไก่ให้สามารถส่งออกสู่ตลาดส่งออกญี่ปุ่น และยุโรปให้ได้มากขึ้น ขณะที่การปรับการผลิตสุกร เข้าสู่การแปรรูปให้มากขึ้น และตั้งโรงงานปรุงสุกเพื่อการส่งออก
ทั้งนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมาย ปรับพอร์ตการขายเข้าสู่ตลาดที่มีมาร์จินสูงขึ้น ประกอบด้วย ตลาดส่งออกเนื้อไก่แช่แข็ง จากการส่งออก 37,000 ตัน มูลค่า 3,300 ล้านบาท ในปี 2560 ให้เติบโตกว่า 30% เป็น 50,000 ตันในปี 2561และ เพิ่มการผลิตไก่ปรุงสุกเพื่อส่งออกอีก 10,000 ตัน จากโรงงานที่จะเปิดใหม่ และ เริ่มผลิต กลางปีนี้
ธุรกิจฟู้ดเซอร์วิสและโมเดิร์นเทรดไก่และสุกร จากกว่า 1,000 ล้านบาท ในปี 2560 เป็น 2,500 ล้าน ในปี 2561 บริษัทฯ ได้ปรับเพิ่มการขายเข้าสู่ตลาดสุกรชำแหละผ่านโมเดิร์นเทรดและฟู้ดเซอร์วิส และขยายกำลังผลิตสุกรชำแหละเป็น 75% ของการผลิตสุกรทั้งหมด เพื่อเพิ่มกำไรขั้นต้นโดยตั้งโรงงานใหม่ผลิตสุกรแปรรูป และไส้กรอกหมูในปี 2561
ธุรกิจผลิตและขายอาหารสัตว์ยังสามารถเติบโตได้และขยายตัวต่อเนื่องในรอบปีที่ผ่านมา โดยการขายภายนอกเครือกว่า 2,580 ล้านบาท เติบโต 40% และ ปี 2561 มีเป้าหมายรายได้ขายภายนอกกว่า 4,000 ล้านบาท