xs
xsm
sm
md
lg

“JFIN Coin” ประกาศเดินหน้าขายเหรียญ บนกระดาน Coin Asset

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC
เจ เวนเจอร์ส (JVC) บริษัทย่อยเจมาร์ท ประกาศพร้อมเทรด JFIN Coin ในตลาดรองครั้งแรก (1st Trading Day) เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 นี้เป็นต้นไป จับมือ Coin Asset เป็นพันธมิตรกระดานเทรดรายแรก นอกจากนี้ วางแผนเทรดบนกระดาน Cash2Coins วันที่ 9 พฤษภาคมนี้ ส่วนในต่างประเทศเล็งไปเทรดบนกระดาน HitBTC ที่ฮ่องกง และ Upbit ที่เกาหลีใต้ ย้ำงานนี้ แม้จะเป็นดิจิทัลโทเคนของคนไทย แต่จะดันให้ได้มาตรฐานในระดับนานาชาติ พร้อมแจ้งความคืบหน้าระบบ DDLP หรือระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง สามารถพัฒนาได้ตามแผน คาดจะแล้วเสร็จอย่างสมบูรณ์ในปี 2562 “ธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์” ซีอีโอ เผย ระบบ DDLP ได้มีการพัฒนาเพิ่มเติมเพื่อให้เห็นถึง Roadmap ของฟังก์ชั่นและประเภทสินค้าที่จะออกสู่ตลาดได้จริง และชัดเจน

นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันทางด้าน Fintech และลงทุนในธุรกิจ Started-up เป็นบริษัทย่อยที่บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นในสัดส่วน 80% เปิดเผยถึงความพร้อมการนำ JFIN Coin จำนวน 100 ล้านโทเคน เข้าทำการซื้อขายในตลาดรองเป็นครั้งแรก (1st Trading Day) วันที่ 2 พฤษภาคม 2561 พร้อมเข้าถึงผู้ลงทุนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ผ่านตัวกลางพันธมิตร คือ COIN ASSET ซึ่งเป็นกระดานเทรด Cryptocurrency นอกจากนี้ ยังเพิ่มกระดานเทรดใน Cash2Coins ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 และวางแผนไปเทรดในกระดานต่างประเทศที่ HitBTC ที่ฮ่องกง และ Upbit ที่เกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ ทั้งนี้ ในส่วนของการเลือกตลาดเพื่อเทรดนั้น ทาง JVC ได้พิจารณาจากความน่าเชื่อถือ และเพื่อให้นักลงทุนสามารถดำเนินการซื้อขายได้อย่างสะดวก และปลอดภัยที่สุด

สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุนครั้งนี้ นำมาใช้พัฒนาระบบ JFIN Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการการกู้ยืมที่อยู่บนระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัยสูง ตั้งแต่การระบุตัวตนของผู้กู้ และผู้ให้กู้ กระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ การประเมินเครดิต การอนุมัติสินเชื่อ และการติดตามหนี้สิน เพื่อสนับสนุนและพัฒนาการบริการด้านสินเชื่อได้อย่างมีประสิทธิภาพ บริหารจัดการโดยอัตโนมัติ เชื่อมโยงผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายในระบบนิเวศ (Ecosystem) เข้าด้วยกัน มีทั้งผู้กู้, ผู้ให้กู้, ผู้ให้เครดิต และผู้ให้บริการพิเศษต่าง ๆ ที่รองรับการทําธุรกรรมทั้งหมด รวมถึงรองรับระบบตลาดสินเชื่อแบบไม่มีตัวกลาง เช่น P2P ที่เชื่อมต่อให้ผู้กู้ที่มีศักยภาพสามารถกู้เงินโดยตรงกับผู้ให้กู้โดยตรง ดังนั้น ระบบ DDLP ที่พัฒนานี้จะเป็นหนึ่งในระบบสำคัญที่เพิ่มศักยภาพการแข่งขันของกลุ่มบริษัทเจมาร์ทในอนาคตอันใกล้นี้อย่างแน่นอน ให้สามารถเข้าถึงประชากรได้อีกจำนวนมาก

โดยเริ่มต้นนี้ JVC พัฒนาระบบให้ J Fintech บริษัทในเครือ โดยใช้พื้นฐานของเทคโนโลยีบล็อกเชนมาใช้ คาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมเริ่มใช้งานในไตรมาส 4/2562 ซึ่งจะมีฟังก์ชันที่ใช้ระบบบล็อกเชนในการทำธุรกรรม จึงสามารถใช้เหรียญเข้ามาทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม กระบวนการดังกล่าวต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์ของหน่วยงานทางการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย ที่จะออกมากำหนดด้วย นอกจากนี้ JVC ไม่หยุดนิ่ง ยังพัฒนาแพลตฟอร์มอื่น ๆ อีก เพื่อสร้างการเติบโต และความเชื่อมั่น ในฐานะผู้นำในธุรกิจพัฒนาซอฟท์แวร์ และแอปพลิเคชันทางด้านฟินเทคให้ได้รับการตอบรับมากขึ้นในอนาคต

“JFIN Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) มีกลุ่มเจมาร์ท เป็นจุดแข็งสำคัญ ซึ่งมี Ecosystem นำมาต่อยอดธุรกิจสินเชื่อ และการเงินภายในกลุ่ม มุ่งเน้นการจับกลุ่มลูกค้าที่มีเครดิตดี วิเคราะห์จากฐานข้อมูลลูกค้าของกลุ่มเจมาร์ท ที่มีรวมกันราว 7 ล้านราย โดยมี บมจ. เจเอ็มที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) ผู้นำในธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ เป็นกุญแจสำคัญทำให้รับความเสี่ยงได้มากกว่า และจับมือพันธมิตร และกลุ่มผู้ประกอบการสตาร์ทอัป สนับสนุนข้อมูลให้แก่บริษัทฯ ให้มีมากกว่า Big Data ที่สามารถสร้าง Credit scoring หรือการประเมินการขอสินเชื่อบุคคลโดยอัตโนมัติผ่านเทคนิคการให้คะแนนเครดิตผ่านข้อมูลต่าง ๆ ที่ระบุไว้ได้อย่างแม่นยำมากขึ้น” นายธนวัฒน์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีทุกวันนี้เปลี่ยนไปเร็วมาก บริษัทฯ จึงต้องเตรียมพร้อมเพื่อนำเทคโนโลยีที่ดีที่สุดมาปรับใช้ในกลุ่มเจมาร์ท เพื่อเป็นผู้นำธุรกิจทางด้านค้าปลีก และการเงินในอนาคตได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นที่มาของการออก JFin Coin ออกเงินดิจิทัลทั้งหมด 300 ล้านโทเคน ทำ ICO ในรอบนี้ ครั้งแรก 100 ล้านโทเคน เปิดเสนอขาย Pre-sale วันแรกเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับเกินคาดหมาย และเตรียมเทรดในตลาดรอง 2 พฤษภาคมนี้ ส่วน JFin อีก 200 ล้านโทเคนที่เหลือ บริษัทฯ เตรียมไว้สำหรับส่วนต่าง ๆ แบ่งเป็น ให้สิทธิแก่กลุ่มเจมาร์ท ซื้อในจำนวน 70 ล้านโทเคน และสำหรับพันทมิตรสำคัญของบริษัทมีสิทธิซื้อในจำนวน 40 ล้านโทเคน และส่วนที่เหลืออีก 90 ล้านโทเคน เตรียมสำหรับใช้ ICO ในอนาคต


กำลังโหลดความคิดเห็น