บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC เปิดทำการซื้อขายเหรียญ ICO วันแรกราคาร่วงดิ่งเหวต่ำจองกว่า -57.09% แกว่งตัวรุนแรงสูงสุดแตะ 6.45 บาท ร่วงสุดต่ำเหลือ 3 บาท เล็งโรดโชว์กระดานเทรดในต่างประเทศ เช่น HitBTC ที่ฮ่องกง และ Upbit ที่เกาหลีใต้
JVC ประกาศซื้อขายเหรียญเงินดิจิทัลในรูปของการระดมทุน ICO ในชื่อ JFIN Coin โดยเข้าทำการซื้อขายหน่วยโทเคนในตลาดรอง Coin Asset หรือกระดานซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งถือว่าเป็นเหรียญเงินดิจิทัลอย่างเป็นทางการรายแรกของของไทยวันแรกวันนี้ โดยราคาที่ซื้อขายปรับลดลงมากที่สุดกว่า -57.09% และมีความผันผวนรุนแรงอย่างมาก โดยขึ้นไปแตะจุดสูงสุดที่ 6.45 บาท ขณะที่ปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 3 บาทต่อโทเคน
นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART บริษัทโฮลดิ้งที่ลงทุนในธุรกิจค้าปลีก และธุรกิจการเงิน เปิดเผยถึงการเข้าระดมทุนของ บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC บริษัทย่อยที่ JMART ถือหุ้นในสัดส่วน 80% ดำเนินธุรกิจพัฒนาซอฟต์แวร์ และแอฟพลิเคชันทางด้านฟินเทค ลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัป และเป็นรายแรกในประเทศไทยของกลุ่มบริษัทมหาชน ที่เข้ามาระดมทุนด้วยการทำ Initial Coin Offering (ICO) ในชื่อเหรียญ JFin Coin โทเคนสัญชาติไทย โดยเดินหน้าเข้าซื้อขายในตลาดรองวันที่ 2 พฤษภาคม 2561 เป็นวันแรก นับเป็นการปลุกกระแส ICO ในประเทศไทย ที่สร้างมาตรฐาน เป็นแบบอย่างที่ดี และสามารถตรวจสอบได้ พร้อมที่จะอยู่ภายใต้การดูแลของหน่วยงานภาครัฐบาล ที่เตรียมจะประกาศกฎเกณฑ์ต่างๆ ออกมาควบคุม ดูแล และสนับสนุนในอนาคต
ทั้งนี้ JFIN Coin เป็นการระดมทุนในรูปแบบของเหรียญเงินดิจิทัล ที่ออกโดยบริษัทเจเวนเจอร์ส จำกัด (JVC) ที่เสนอขายให้คนทั่วไป (ICO) โดยจะระดมทุนในหลายช่วง ซึ่งช่วงแรกจะระดมทุน จำนวน 100 ล้านโทเคน และได้มีการเปิดพรีเซลไปแล้วเมื่อวันที่ 14 ก.พ. 2561 ที่ผ่านมา ในราคาโทเคนละ 6.60 บาท โดยมีผู้เสนอซื้อหมดทั้งจำนวน อย่างไรก็ตาม JVC จะระดมทุนออกขาย ICO ในชื่อ JFIN Coin ทั้งสิ้น 300 ล้านเหรียญ โดยมีวัตถุประสงค์ของการระดมทุน เพื่อนำไปพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัล โดยอาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงรูปแบบการปล่อยสินเชื่อในปัจจุบัน
ขณะที่นายธนวัฒน์ เลิศวัฒนารักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC ผู้พัฒนาซอฟต์แวร์ และแอปพลิเคชันทางด้าน Fintech และลงทุนในธุรกิจ Started-up กล่าวว่า JFIN Coin จำนวน 100 ล้านโทเคน ที่ได้เข้าทำการซื้อขายในตลาดรองเป็นครั้งแรก (1st Trading Day) วันนี้โดยเปิดราคา matching แรกที่ 6.45 บาทต่อโทเคน ซึ่ง JFIN มีจำนวนดิจิทัลโทเคนทั้งหมด 300 ล้านโทเคน โดยนำมาทำ Initial Coin Offering (ICO) ในรอบนี้ครั้งแรก 100 ล้านโทเคน ที่ราคาขาย 6.60 บาทต่อโทเคน เงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ราว 660 ล้านบาท ทีมงานได้เริ่มดำเนินการพัฒนาระบบ JFIN Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการการกู้ยืมที่อยู่บนระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัยสูง คาดระบบจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2562 จะนำไปใช้ในธุรกิจสินเชื่อของบริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ และเชื่อมั่นว่าด้วยจุดแข็งจาก Ecosystem ในกลุ่มเจมาร์ท จะสนับสนุนให้ JFIN ที่ออกมาในครั้งนี้ ได้รับความเชื่อมั่น มีเสถียรภาพ และเจริญเติบโตได้
“เราเตรียมที่จะเพิ่มกระดานเทรดใน Cash2Coins ในวันที่ 9 พฤษภาคม 2561 โดย JVC ได้เริ่มดำเนินการพัฒนาระบบ JFIN Decentralized Digital Lending Platform (DDLP) ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการให้บริการการกู้ยืมที่อยู่บนระบบบล็อกเชน มีความปลอดภัยสูง คาดระบบจะแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4/2562 จะนำไปใช้ในธุรกิจสินเชื่อของบริษัท เจ ฟินเทค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ และเชื่อมั่นว่า ด้วยจุดแข็งจาก Ecosystem ในกลุ่มเจมาร์ท จะสนับสนุนให้ JFIN ที่ออกมาในครั้งนี้ ได้รับความเชื่อมั่น มีเสถียรภาพ และเจริญเติบโตได้”
อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้ บริษัทฯ มีแผนโรดโชว์ในต่างประเทศเพิ่มเติมอีก เริ่มต้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก่อน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและเข้าถึงผู้ลงทุนทั้งในประเทศไทย และต่างประเทศ ด้วยความมุ่งหวังให้ JFIN เป็นที่รู้จักในฐานะเหรียญของคนไทยที่ได้รับการยอมรับระดับสากล และวางแผนไปเทรดในกระดานต่างประเทศที่ HitBTC ที่ฮ่องกง และ Upbit ที่เกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ
