ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) (TISCO) และบริษัท ออล-เวย์ส จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยภายใต้บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศบรรลุข้อตกลงการโอนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และธุรกิจบัตรเครดิต ให้แก่ ธนาคารซิตี้แบงก์ เอ็น.เอ. สาขากรุงเทพฯ (ซิตี้แบงก์) แล้ว โดยการดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ทางธุรกิจของธนาคาร และบริษัท ที่คำนึงถึงการให้บริการที่สามารถตอบสนองลูกค้าให้ได้รับความพึงพอใจสูงสุดภายใต้ภาวะการแข่งขันของตลาดในปัจจุบัน ขณะที่ธนาคารซิตี้แบงก์ ซึ่งเป็นพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญ และเป็นหนึ่งในผู้ให้บริการธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิตในประเทศไทยมายาวนาน การโอนธุรกิจดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนให้ลูกค้าได้รับบริการที่ตอบสนองความต้องการได้อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ธุรกิจสินเชื่อบุคคล และบัตรเครดิตดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตธุรกิจลูกค้ารายย่อย อันประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย, ธุรกิจแบงก์แอสชัวรันส์, เงินฝากรายย่อย, บริการธนบดีธนกิจ (Wealth Management), สินเชื่อธุรกิจรายย่อย, สินเชื่อบุคคล และบัตรเครดิต ที่ธนาคารและบริษัทรับโอนมาจากธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) จำกัด (มหาชน) โดยกระบวนการถ่ายโอนธุรกิจทั้งหมดแล้วเสร็จเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา (พ.ศ. 2560)
ธนาคารและบริษัทจะออกหนังสือแจ้งประกาศข้อตกลงการโอนธุรกิจแก่ลูกค้าสินเชื่อบุคคล และบัตรเครดิต และจะมีการแจ้งความคืบหน้าแก่ลูกค้าเป็นระยะในระหว่างการถ่ายโอนธุรกิจ โดยในระหว่างการเปลี่ยนผ่านธนาคารและบริษัทมุ่งมั่นจะทำงานร่วมกับธนาคารซิตี้แบงก์อย่างใกล้ชิด เพื่อประโยชน์สูงสุดของลูกค้า และดำเนินการให้การถ่ายโอนเป็นไปอย่างราบรื่น
นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ กล่าวว่า การตัดสินใจครั้งนี้เกิดจากการทบทวน และวิเคราะห์แนวทางที่เหมาะสม และสอดคล้องกับกลยุทธ์ระยะยาวของทิสโก้ ที่มุ่งเน้นการเติบโตในธุรกิจสินเชื่อที่มีหลักประกันที่เรามีความเชี่ยวชาญ โดยคำนึงถึงผลตอบแทนที่เหมาะสมกับความเสี่ยง ประกอบกับเป็นจังหวะที่มีพันธมิตรอย่างธนาคารซิตี้แบงก์ ให้ความสนใจ และนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า โดยลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์และบริการที่ต่อเนื่อง จึงเป็นปัจจัยที่เราพิจารณาเห็นว่าเป็นแนวทางที่เหมาะสม
ส่วนธุรกิจอื่น ๆ ที่รับโอนจากมาจากสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ได้มีการต่อยอดไปตามแผนงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจ Wealth Management ได้รับความเชื่อมั่นและการตอบรับที่ดีมากจากลูกค้า ด้วยบริการ Open Architecture ทำให้เราสามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ และต่อยอดการบริการให้แก่ลูกค้าได้ดี ทั้งกองทุนรวม และแบงก์แอสชัวร์รันส์ โดยเรามีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำลูกค้าอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ยังมีสินเชื่อบ้านทิสโก้ มอร์เกจเซฟเวอร์ (Mortgage Saver) เป็นผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นตอบโจทย์ให้ลูกค้าเป็นเจ้าของบ้านได้เร็วขึ้น ซึ่งจากนี้ไป เรามีแผนการตลาดเชิงรุกในสินเชื่อตัวนี้นอกเหนือจากสินเชื่อเช่าซื้อ และสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ ที่เรามีความเชี่ยวชาญ ในภาพรวมปีนี้ ธุรกิจรายย่อยของกลุ่มทิสโก้ จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่คาดไว้
ทั้งนี้ ธนาคารได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ถึงมูลค่าสินทรัพย์โอนขาย ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560 มีมูลค่าประมาณ 6,900 ล้านบาท และกระบวนการถ่ายโอนธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล และบัตรเครดิตดังกล่าว คาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จภายในไตรมาส 4 ปีนี้
ด้านนางวีระอนงค์ จิระนคร ภู่ตระกูล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบุคคลธนกิจ ธนาคารซิตี้แบงก์ประเทศไทย ได้กล่าวว่า สิ่งสำคัญอันดับแรกสำหรับธุรกิจรายย่อยในประเทศไทย คือ การเติบโต การโอนย้ายธุรกิจครั้งนี้เพิ่มโอกาสให้ซิตี้แบงก์ ขยายฐานธุรกิจในประเทศไทยมากขึ้น ในฐานะที่เราเป็นผู้ให้บริการบัตรเครดิตชั้นนำในเอเชีย ทางเรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่า ลูกค้ากลุ่มนี้ จะได้รับความพึงพอใจในผลิตภัณฑ์ และสิทธิพิเศษของซิตี้แบงก์ ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในระดับโลก ทั้งสิทธิพิเศษด้านการรับประทานอาหาร, ด้านการท่องเที่ยว, คะแนนสะสม และสิทธิพิเศษอื่น ๆ อีกมากมายที่เรามีให้กับลูกค้าทุกคนของเรา ไม่ว่าจะอยู่ที่ใหนของมุมโลกก็ตาม
ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ซิตี้แบงก์ มีลูกค้าบัตรเครดิตกว่า 16 ล้านคน ซึ่งเป็นธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานและการเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 6 ติดต่อกัน ในปี 2560 รายได้ของธุรกิจบัตรเครดิตของซิตี้แบงก์ในเอเชีย เพิ่มขึ้น 10% เป็น 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีกำไรสุทธิ 462 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 12% ด้วยความเชี่ยวชาญและความเป็นมืออาชีพของซิตี้แบงก์ ทางบริษัทจึงเล็งเห็นความเหมาะสม และมีความเชื่อมั่นว่า ลูกค้าจะได้รับสิทธิประโยชน์ และบริการที่ดี และต่อเนื่องจากการโอนธุรกิจในครั้งนี้