xs
xsm
sm
md
lg

AECS คาดดัชนีหุ้นไทยสัปดาห์นี้แกว่งตัว 1,780-1,820 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล. เออีซี ประเมินหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบ 1,780-1,820 จุด หวั่นปัจจัยเสี่ยงจากประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ ยังไม่ได้ข้อยุติ และมีโอกาสยืดเยื้อต่อไป ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ อีกทั้งราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกทั้งโลหะ และน้ำมัน ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง มองกรอบดัชนีหุ้นไทยยังขึ้นจำกัดจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น ด้านฝ่ายวิจัย แนะหุ้นกลุ่มพลังงาน-รับเหมา-กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์

บริษัทหลักทรัพย์ เออีซี จำกัด (มหาชน) หรือ AECS เปิดเผยถึงทิศทางการลงทุนในตลาดหุ้นไทยในช่วงสัปดาห์นี้ (23-27 เม.ย.) โดยทางฝ่ายวิจัย ให้กรอบการลงทุน 1,780-1,820 จุด พร้อมแนะนำให้จับตา 10Yr-US Bond Yield ที่ล่าสุดปรับขึ้นแตะระดับ 2.96% นับเป็นระดับสูงสุดในรอบ 4 ปี หลังนักลงทุนคาดอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐฯ จะมีทิศทางเร่งตัวมากขึ้น สอดคล้องกับราคาสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกทั้งโลหะ และน้ำมัน ที่ปรับขึ้นต่อเนื่อง หลังสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน ยังไม่ได้ข้อยุติ และมีโอกาสยืดเยื้อต่อไป ส่งผลลบต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ และสร้างความกังวลที่เฟด จะปรับขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้น

อย่างไรก็ดี เรามองว่า การปรับขึ้นของตัวเลขดังกล่าวจะยังไม่ส่งผลต่อการตัดสินใจขึ้นดอกเบี้ยของเฟดให้แตกต่างไปจากเป้าเดิมที่ 3 ครั้งในปีนี้ เนื่องจากในช่วงสั้นการปรับขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์จะยังไม่กระทบต่อดัชนีราคาผู้บริโภค Core CPI และดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลที่เฟด ใช้เป็น Indicator สำคัญที่สะท้อนถึงระดับเงินเฟ้อของภาคครัวเรือน ทำให้คาดตลาดหุ้นสหรัฐฯ มีโอกาสฟื้นตัวได้

ทั้งนี้ ทางฝ่ายวิจัยมองว่า แม้ดัชนีมีโมเมนตัมปรับขึ้นต่อได้หลังราคาน้ำมันยังทรงตัวระดับสูง และคลายกังวลสถานการณ์ต่างประเทศ แต่มองกรอบการขึ้นยังจำกัดจากแรงขายทำกำไรระยะสั้น และอยู่ระหว่างติดตามงบ 1Q 61 ของ บจ. โดยกลยุทธ์ลงทุนแนะนำ “Selective Buy โดยไม่ไล่ราคาในหุ้นที่คาดจะ Outperform ตลาด”

ดังนั้น กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำ หุ้นกลุ่มพลังงาน ซึ่งได้อานิสงส์ราคาน้ำมันยังสูงเกิน 65 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เช่น PTT, PTTEP หุ้นที่คาดว่างบ 1Q/61 จะออกมาเติบโตดี YoY เช่น HMPRO, CPALL, BJC, MINT, ERW, RS, MONO, BCH หุ้นที่ได้ประโยชน์จาก EEC เช่น AMATA, WHA, ROJNA, SEAFCO และหุ้นจ่าย Div. Yield เกิน 3% โดยจะขึ้น XD พ.ค. นี้ เช่น KKP, SC, AP, LH

นอกจากนี้ ยังแนะนำหุ้นกลุ่มที่คาดว่าปรับตัวบวก ได้แก่ กลุ่มบริการรับเหมาก่อสร้าง เช่น PYLON, SEAFCO กลุ่มเงินทุนและหลักทรัพย์ เช่น AMANAH, THANI


กำลังโหลดความคิดเห็น