xs
xsm
sm
md
lg

“บล. โกลเบล็ก” จับตาหุ้นประกาศงบ Q1/61 หนุนดัชนี 1,745-1,790 จุด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


บล. โกลเบล็ก มองหุ้นไทยได้ปัจจัยหนุน บจ. ในสหรัฐฯ ประกาศงบ Q1/61 ฟื้นตัวรับนโยบายปฏิรูปภาษี และราคาน้ำมันทรงตัวใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี แนะจับตาการส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยของเฟด และปัญหาความไม่สงบของสหรัฐฯ กับรัสเซีย ที่จะนำพาไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3 ให้กรอบดัชนี 1,745-1,790 จุด แนะเก็งกำไรหุ้น WORK-MONO-BEC ได้อานิสงส์ คสช. สั่งเยียวยาผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ส่วนราคาทองคำแนะเก็งกำไรในช่วง 1,300-1,315 ดอลลาร์สหรัฐฯ

น.ส.วิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้หลังจากวันหยุดยาวที่ผ่านมา โดยมองว่าได้ปัจจัยหนุนจากการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนเนื่องจากได้รับผลดีจากนโยบายปฏิรูปภาษีทำให้ค่าใช้จ่ายภาษีลดลง

อีกทั้งทางจีนรายงานตัวเลขเศรษฐกิจที่ดีในช่วงไตรมาส 1/2561 ได้แก่ ตัวเลข GDP ขยายตัว 6.8% การลงทุนภาคเอกชนขยายตัว 8.9% การลงทุนด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ขยายตัว 10.4% และตลาดแรงงานจีนยังมีเสถียรภาพ และราคาน้ำมันทรงตัวใกล้ระดับราคาสูงสุดในรอบ 3 ปี หนุนหุ้นกลุ่มน้ำมัน

ส่วนปัจจับที่คาดว่าจะมีผลเชิงลบต่อการลงทุนในสัปดาห์นี้ คือ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก แสดงความเห็นว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป 3-4 ครั้งในปีนี้ และจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายสู่ระดับ 3% ในที่สุด กดดัน fund flow ไหลออก โดยในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา fund flow ผันผวนหนัก ขายสุทธิ 9.9 พันล้านบาท และคาดผลการดำเนินงานของแบงก์ใหญ่ที่จะประกาศในสัปดาห์นี้ยังถูกกดดันจากการตั้งสำรองหนี้สูญเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับมาตรฐานบัญชี IFRS9 ขณะที่ยอดสินเชื่อสุทธิโดยรวมยังหดตัวเมื่อเทียบกับปลายปี 2560

ขณะที่ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อเนื่องในขณะนี้ ได้แก่ การประกาศงบของกลุ่มแบงก์พาณิชย์ในช่วงไตรมาส 1/2561 ภายในวันที่ 20 เม.ย. นี้ การเปิดเผยตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เดือน มี.ค. และเปิดเผยดุลบัญชีเดินสะพัดเดือน ก.พ. รวมทั้งเปิดเผยความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน เม.ย. ของกลุ่ม EU การรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันรายสัปดาห์ของสหรัฐฯ รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ (Beige Book) จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งจะทราบผลในช่วงเช้าวันที่ 19 เม.ย. และการแจ้งตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีการผลิตเดือน เม.ย. ของสหรัฐฯ รวมทั้งคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) จะประชุมพิจารณาปรับสูตรราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่น-ค่าการตลาด และในวันที่ 23 เม.ย. สหภาพยุโรป (EU) และสหรัฐฯ จะรายงานตัวเลขดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นเดือน เม.ย.

ด้านนายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์โกลเบล็ก จำกัด กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มผันผวนในกรอบที่สูงขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้า คาด SET เคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 1,745-1,790 จุด แนะนำซื้อเก็งกำไร หุ้นที่มีปัจจัยบวก ได้แก่ PSL, TTA ดัชนีค่าระวางเรือปรับตัวขึ้น 8% WTD สู่ 1,025 จุด หุ้น WORK, MONO, BEC ได้ประโยชน์จาก คสช. เตรียมออกคำสั่งมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลภายใน 1 สัปดาห์ หุ้น QH เป็นหุ้นมี yield สูงเฉลี่ยปีละ 6-7% ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ PER 10 เท่าต่ำกว่า PER ที่ระดับ 17 เท่า แนะนำลงทุนระยะยาวรับเงินปันผล รวมทั้งหุ้นปันผลเด่นอื่น ๆ เช่น BAFS, CRD, FTE, GLOW, KKP, NYT, SIS, SPRC, TISCO, QH, PDI, PL, AIT, AP, KIAT

ด้านแนวทางการลงทุนในทองคำ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล. โกลเบล็ก กล่าวว่า ทิศทางราคาทองคำในสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิด false breakout และย่อกลับลงมาเคลื่อนตัวในกรอบทางเทคนิครูปสามเหลี่ยมแบบ descending เนื่องจากสงครามระหว่างพันธมิตรนาโต้ของสหรัฐฯ กับฝ่ายรัสเซีย ที่ประจำการอยู่ในซีเรียไม่บานปลายออกไป โดยฝ่ายรัสเซียสามารถคุมสถานการณ์ไว้ได้ทั้งหมดด้วยเทคโนโลยีที่เหนือกว่ามาก ทำให้นักลงทุนคลายความกังวลต่อผลของสงครามในภูมิภาคตะวันออกกลางว่าจะกระทบต่ออุปทานน้ำมัน

อย่างไรก็ตาม สงครามในซีเรียยังคงอยู่ ซึ่งหากฝ่ายรัฐบาลพยายามจะรุกเข้ายึดพื้นที่ส่วนที่เหลือคืนได้จากฝ่ายกบฏ ก็อาจเกิดการปะทะใหญ่อีกครั้ง และจะสร้างความผันผวนให้กับตลาดน้ำมัน และทองคำ เนื่องจากบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ขุดเจาะน้ำมันที่สำคัญของประเทศ ดังนั้น จึงยังคงคำแนะนำให้เก็งกำไรในกรอบด้วยการรอจังหวะเข้าซื้อสะสมเมื่อราคาอ่อนตัวลงในช่วง 1,300-1,315 ดอลลาร์สหรัฐฯ แล้วแบ่งขายทำกำไรเมื่อราคาปรับขึ้นไปในช่วง 1,345-1,355 ดอลลาร์สหรัฐฯ และถือต่อถ้าราคาทะลุผ่าน 1,360 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขึ้นไปได้


กำลังโหลดความคิดเห็น