xs
xsm
sm
md
lg

“GUNKUL” ยันไม่กระทบบริษัท เหตุรัฐเบรกซื้อไฟฟ้าจากพลังงานทดแทน 5 ปี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL
GUNKUL ยันกรณีรัฐบาลกำหนดนโยบายงดซื้อไฟฟ้าส่วนเพิ่มเป็นระยะเวลา 5 ปี ไม่กระทบธุรกิจ เหตุขยายการลงทุนไปยังต่างประเทศ และมุ่งลงทุน Private PPA จาก Solar Rooftop ที่ตลาดภาคเอกชนมีความต้องการสูง ตั้งเป้าปีนี้ COD โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทั้งลม และโซลาฟาร์ม ไม่ต่ำกว่า 180 เมกะวัตต์ หนุนรายได้ไม่ต่ำกว่า 30%

นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงกรณีที่รัฐบาลกำหนดนโยบายการงดซื้อไฟฟ้าส่วนเพิ่มเป็นระยะเวลา 5 ปี บริษัทยันยันว่า ประเด็นดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของบริษัท เนื่องจาก

1. บริษัทมีแผนขยายการผลิตไปยังต่างประเทศ ซึ่งมีความต้องการใช้ไฟฟ้าจากการเจริญเติบโตทางด้านเศรษฐกิจ และมาตรการส่งเสริมจากภาครัฐในประเทศนั้น โดยได้ขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าไปยังต่างประเทศ เช่น โครงการพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 200 เมกะวัตต์, โครงการพลังแสงอาทิตย์ที่ประเทศมาเลเซีย ขนาด 30 เมกะวัตต์, โครงการประเภทเชื้อเพลิงแก๊สที่ประเทศพม่า ขนาด 25 เมกะวัตต์ และบริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนเพิ่มเติมทั้งที่ประเทศมาเลเซีย พม่า และเวียดนาม เนื่องจากเชื่อว่าความต้องการ และนโยบายภาครัฐของประเทศดังกล่าว ยังคงให้การสนับสนุนด้านพลังงานทดแทน เนื่องจากต้นทุนที่ถูกลง และมีความจำเป็นในการต้องขยายสัดส่วนความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อให้สอดคล้องกับการขยายตัวของเศรษฐกิจ และความต้องการใช้พลังงาน

2. บริษัทมุ่งลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าภาคเอกชนประเภทติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop) และแบบติดตั้งบนภาคพื้นดิน (Solar Ground) ภายในประเทศ เพื่อลดต้นทุนด้านภาคประกอบการ และเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน โดยปีนี้บริษัทมุ่งเน้นลงทุนติดตั้งโรงไฟฟ้าบนหลังคาให้กับภาคเอกชนแบบให้ส่วนลด และสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแบบระยะยาว (Private PPA) ซึ่งได้กำหนดเป้าหมายการขยายตัวสำหรับ Solar Rooftop ภาคเอกชนในปีนี้ประมาณ 50-100 เมกะวัตต์

3. บริษัทตั้งเป้าการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ในปีนี้ 180 เมกะวัตต์ พร้อมตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 30% และยังคงเป้าที่จะมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) ครบ 1,000 เมกะวัตต์ในปี 2563

“ถือเป็นโอกาสที่นักลงทุนจะได้ใช้วิจารณญาณในการลงทุน โดยศึกษาข้อมูลของบริษัท ซึ่งจะเห็นได้ว่าสัดส่วนรายได้ที่เติบโตขึ้นของพลังงานทดแทนจาการขยายการจำหน่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม และโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในปีนี้จะส่งผลให้บริษัทมีรายได้เติบโตอย่างก้าวกระโดด และบริษัทยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาโครงการด้านพลังงานทดแทนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลให้ผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นมีอัตราเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายตามที่กำหนด” นางสาวโศภชา กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น