การกีดกันทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนเริ่มประนีประนอม อีกทั้งตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ แข็งแกร่งต่อเนื่อง กดดันราคาทองคำในฐานะสินทรัพย์เสี่ยงปรับตัวลดลง ประเมินหากปรับตัวลดลงไม่หลุด 1,313 เหรียญ/ออนซ์ ยังเก็งกำไรระยะสั้นจากการดีดตัวของราคาได้
“วรุต รุ่งขำ” ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์ วายแอลจี บูลเลี่ยน แอนด์ ฟิวเจอร์ส กล่าวว่า ภาพรวมราคาทองคำที่ผ่านมาถูกกดดันตั้งแต่ต้นสัปดาห์โดยสถานการณ์การกีดกันการค้า หรือสงครามการค้าคลี่คลายลง หลังจากสหรัฐฯ และจีนมีท่าทีประนีประนอม ส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยอ่อนตัวลง และการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์เสี่ยง หรือตลาดหุ้นทั่วโลกมีการฟื้นตัวขึ้นอย่างชัดเจน ทั้งนี้ การเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์สหรัฐมีการแข็งค่าขึ้นตอบรับข้อมูลเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่มีทิศทางแข็งแกร่ง ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของตัวเลข GDP และผลประกอบการภาคเอกชนที่ยังคงมีทิศทางทีสดใส ปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) มีแนวโน้มคุมเข้มนโยบายทางการเงินมากยิ่งขึ้น และมีโอกาสที่ดอลลาร์สหรัฐจะฟื้นตัวขึ้นในระยะถัดๆ ไปจากแนวโน้มตัวเลขเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ
“สถานการณ์ดังกล่าวกลับมาเป็นปัจจัยกดดันทองคำเพิ่มเติม ทั้งนี้ ราคาทองคำถูกลดความน่าสนใจลงในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเมื่อท่าทีของเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้มีท่าทีประนีประนอมกันมากขึ้น และการเดินทางเยือนจีนของผู้นำเกาหลีเหนือ มีท่าทีประนีประนอม และทำให้บริเวณคาบสมุทรเกาหลีคลี่คลาย ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยขาดปัจจัยหนุนเพิ่มเติม”
สำหรับปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาเนื่องจากปริมาณการซื้อขายในตัวตลาดทองคำอาจจะเบาบางลงต่อเนื่อง เนื่องจากวันจันทร์ที่ 2 เมษายน ตลาดเงินตลาดทุนในโซนยุโรป และบางประเทศยังคงปิดทำการต่อจากเทศกาล Good Friday ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายทองคำเบาบางลงไปด้วย ขณะที่ในส่วนของวันพฤหัสฯ และวันศุกร์ ตลาดเงินตลาดทุนในฝั่งจีนจะหยุดทำการเนื่องในเทศกาลเช็งเม้ง ทั้งนี้ ก็จะทำให้ปริมาณการซื้อขายทองคำในตลาดเอเชียเบาบางเช่นกัน อย่างไรก็ตาม ยังคงให้จับตาดูการเคลื่อนไหวของดัชนีดอลลาร์สหรัฐ ที่เริ่มมีการฟื้นตัวขึ้นตอบรับแนวโน้มเศรษฐกิจในฝั่งสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง ตามการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจ รวมทั้งแนะนำให้จับตาดูภาคตลาดแรงงานที่จะสะท้อนความแข็งแกร่งเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น โดยจะมีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตร อัตราการว่างงาน รายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมง ซึ่งจะทำให้นักลงทุนคาดการณ์แนวโน้มการคุมเข้มนโยบายการเงินเฟดได้เพิ่มเติม
ส่วนกลยุทธ์การลงทุนให้แนวรับที่ระดับ 1,313, 1,298 และ 1,273 เหรียญ/ออนซ์ แนวต้านประเมินไว้ระดับ 1,356, 1,376 และ 1,392 เหรียญ/ออนซ์ สำหรับกลยุทธ์การลงทุน เนื่องจากราคาทองคำเริ่มมีการแกว่งตัวในรูปแบบของการแกว่งตัวที่ย่อลง อย่างไรก็ตาม อาจจับตาการอ่อนตัว หรือการตั้งฐานของราคา หากอ่อนตัวลง และยืนเหนือโซนแนวรับ 1,313 เหรียญ/ออนซ์ได้ แนะนำให้ใช้โซนดังกล่้าวเป็นโซนในการพิจารณาเข้าซื้อเพื่อทำกำไรระยะสั้นจากการดีดตัว และเมื่อราคารดีดตัวขึ้นไม่พ้น 1,345-1,356 เหรียญ/ออนซ์ อาจเปิดสถานะขายเพื่อรอให้ราคาอ่อนตัวลง โดยมีแนวรับทื่ 1,356 เหรียญ/ออนซ์
“เรายังคาดการณ์ว่าการเคลื่อนจไหวของทองคำจะขึ้นลงสลับฟันปลา นักลงทุนอาจทำกำไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวของราคาน่าจะเหมาะสมที่สุดในช่วงนี้”
