“ไพบูลย์ นลินทรางกูร” รั้งตำแหน่งประธานสมาพันธ์นักวิเคราะห์การลงทุนแห่งเอเชียเป็นสมัยที่ 2 เดินหน้าประสาน 8 สมาคมแห่งเอเชีย-โอเชียเนีย-สานต่อพันธกิจการพัฒนานักวิเคราะห์และบุคลากรตลาดเงินตลาดทุนรับมือยุคดิจิทัล
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้ จำกัด ได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์นักวิเคราะห์การลงทุนแห่งเอเชีย (Asia Securities and Investments Federation หรือ ASIF) เป็นสมัยที่ 2 เพื่อสานต่อพันธกิจของสมาพันธ์ฯ ผ่านการจับมือกับ 8 สมาคมตลาดเงินตลาดทุนทั่วทวีปเอเชีย และโอเชียเนีย ด้านการประชาสัมพันธ์การลงทุน การพัฒนาและยกระดับมาตรฐานคุณภาพนักวิเคราะห์และบุคลากรในวงการตลาดทุน ด้วยการแลกเปลี่ยนแนวคิดและการประสานความร่วมมือภายในสมาพันธ์ฯ ให้สามารถรับมือกับยุคเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“พันธกิจอันดับต้น ๆ ของสมาพันธ์ฯ คือ การให้ความสำคัญกับการพัฒนานักวิเคราะห์และบุคลากรตลาดทุน โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่เทคโนโลยีมีการเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว และมีบทบาทสำคัญในการสนับสนุน และผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งด้านธุรกิจ และตลาดทุน ดังนั้น เราจึงต้องเตรียมบุคลากรให้พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลง ด้วยการส่งเสริมการเรียนรู้ และใช้เทคโนโลยีให้เป็นประโยชน์อย่างเต็มที่ รวมถึงทำงานร่วมกับเทคโนโลยีให้ได้” นายไพบูลย์ กล่าว
การดำรงตำแหน่งประธานสมาพันธ์ฯ ในสมัยที่ 2 นี้ มีวาระ 2 ปี (วาระปี 2561-2562) ซึ่งนายไพบูลย์ นับเป็นคนไทยคนที่ 3 ที่ได้รับโอกาสในการทำงานในระดับเอเชีย ต่อจากนายวิชรัตน์ วิจิตรวาทการ (วาระปี 2540-2542) และศาสตราจารย์ ดร. พนัส สิมะเสถียร (วาระปี 2542-2544) ทั้งนี้ สมาพันธ์นักวิเคราะห์การลงทุนแห่งเอเชีย ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2522 ปัจจุบันประกอบด้วย 8 สมาคมและสมาพันธ์ในทวีปเอเชียและโอเชียเนีย ได้แก่ ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ (Financial Services Institute of Australasia หรือ FINSIA), สาธารณรัฐประชาชนจีน (The Securities Analysts Association of China หรือ SAAC), ไต้หวัน (Securities Analysts Association, Chinese Taipei หรือ SAA), เขตปกครองพิเศษฮ่องกง (Hong Kong Securities and Investment Institute หรือ HKSI), ญี่ปุ่น (The Security Analysts Association of Japan หรือ SAAJ), เกาหลีใต้ (The Korea Certified Investment Analysts Association หรือ KCIAA), เวียดนาม (Securities Research and Training Center หรือ SRTC) และไทย (Investment Analysts Association Thailand หรือ IAA)
“สำหรับในประเทศไทย เชื่อว่าการรับตำแหน่งในครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสในการยกระดับและพัฒนานักวิเคราะห์ของเราให้มีศักยภาพมากขึ้นผ่านการแลกเปลี่ยนแนวคิด และการประสานงานในสมาพันธ์ฯ โดยเรามีเป้าหมายให้นักวิเคราะห์ไทยสามารถวิเคราะห์หุ้นต่างประเทศ และก้าวไปสู่การเป็นนักวิเคราะห์ในระดับภูมิภาคได้ ซึ่งนับเป็นเป้าหมายที่สอดคล้องกับสมาพันธ์ฯ ที่ต้องการการพัฒนาบุคลากรตลาดทุนเช่นกัน” นายไพบูลย์ กล่าว
