ตลาดหุ้นเอเชียปิดภาคเช้าร่วงลงอย่างหนักในวันนี้ เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่ทางการจีนประกาศว่าจะใช้มาตรการตอบโต้เช่นกัน
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดภาคเช้าที่ 20,827.92 จุด ลดลง 764.07 จุด หรือ -3.54% ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดภาคเช้าที่ 30,199.01 จุด ลดลง 872.04 จุด หรือ -2.81% ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดภาคเช้าที่ 1,864.38 จุด ลดลง 12.49 จุด, -0.67%
ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งประธานาธิบดีเมื่อวานนี้ (22 มี.ค.) เพื่อเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยระบุว่าเป็นการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐฯ
ขณะที่ทางการจีนได้ประกาศแผนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ รวมมูลค่า 3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยพุ่งเป้าไปที่สินค้า 128 รายการของสหรัฐฯ เพื่อเป็นการตอบโต้หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเมื่อวานนี้
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันนี้ กระทรวงสื่อสารและกิจการภายในประเทศของญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมราคาอาหารสด ปรับตัวขึ้น 1% ในเดือน ก.พ. เมื่อเทียบเป็นรายปี เนื่องจากต้นทุนพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้น
นักลงทุนจับตาการโหวตร่างกฎหมายงบประมาณวงเงิน 1.3 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ โดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้ลงมติอนุมัติร่างกฎหมายดังกล่าวแล้ว และได้ส่งต่อไปยังวุฒิสภาเพื่อทำการพิจารณาต่อไป
ทั้งนี้ สภาคองเกรสจะต้องโหวตร่างกฎหมายดังกล่าวให้ทันเส้นตายในเวลาเที่ยงคืนวันศุกร์ตามเวลาสหรัฐฯ หรือในวันเสาร์ (24 มี.ค.) เวลา 11.00 น. ตามเวลาไทย ซึ่งหากร่างงบประมาณฉบับนี้ไม่ได้รับการลงนามจากปธน. ทรัมป์ ก่อนกำหนดเส้นตาย ก็จะส่งผลให้รัฐบาลสหรัฐฯ เผชิญกับการปิดหน่วยงานของรัฐ (ชัตดาวน์) เป็นครั้งที่ 3 ในปีนี้