เฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกของปี จับตาสงครามการค้าอาจเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจ

เอเอฟพี/เอเจนซี - เจอโรม พาวเวลล์ ประธานคนใหม่ของเฟดระบุในวันพุธ(21มี.ค.) ธนาคารกลางสหรัฐฯไม่เห็นสัญญาณดัชนีราคาผู้บริโภคจะเพิ่มขึ้นอย่างฉับพลันในเศรษฐกิจอเมริกา ในการแถลงข่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ซึ่งมีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% ตามที่คาดหมายเอาไว้

ในการแถลงหลังการประชุมครั้งแรกในฐานะประธานเฟด พาวเวลล์ ระบุว่า "ไม่มีข้อมูลสื่อว่าเราอยู่บนจุดเปลี่ยนที่เงินเฟ้อกำลังเร่งตัวขึ้น"

จากข้อมูลพบว่าค่าแรงและความเฟ้อของราคาเพิ่มขึ้นปานกลาง แต่เฟดระมัดระวังอย่างยิ่งต่อการเพิ่มขึ้นใดๆที่อาจเป็นผลมาจากอัตราคนว่างงานในระดับต่ำมาก "มันไม่ใช่สิ่งที่เราสังเกตเห็นในปัจจุบัน" พาวเวลล์กล่าว

เมื่อถูกถามถึงความไม่ลงรอยทางการค้ามากขึ้นอันมีชนวนเหตุมาจากความเคลื่อนไหวเชิงก้าวร้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งมีเป้าหมายเล่นงานจีนโดยเฉพาะ พาวเวลล์ ตอบว่าเวลานี้พวกเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางมองแนวโน้มของสงครามการค้าในฐานะภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจที่กำลังลุกลามขึ้นเรื่อยๆ

อย่างไรก็ตามเขาเผยว่าพวกเจ้าหน้าที่ไม่ได้เจาะจงว่าสงครามการค้าจะส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อหรือการเติบโตทางเศรษฐิจหรือไม่

คำแถลงของ พาวเวลล์ มีขึ้นหลังจากคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติปรับขึ้นดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบปีนี้ โดยปรับขึ้นดอกเบี้ยระยะสั้น 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% แม้ประมาณการว่าตัวเลขเงินเฟ้อทรงตัวอยู่ราวๆ 2% ไปจนถึงปีหน้า

ขณะเดียวกัน เฟดยังคงส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีนี้ และคาดว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 3 ครั้งในปีหน้า และ 2 ครั้งในปี 2020 หลังเฟดคาดหมายว่าเศรษฐกิจจะเติบโตแข็งแกร่งขึ้นในปีนี้และปีหน้า และอัตราคนว่างงานที่แตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติศาสตร์ก็จะลดลงไปอีกในปี 2019

เจ้าหน้าที่เฟดประมาณการว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.1%ในช่วงสิ้นปีนี้ หลังปรับขึ้นอีก 2 ครั้ง ไม่ต่างจากการประมาณการคราวก่อนเมื่อเดือนธันวาคม แต่คาดหมายว่าอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 2.9% ในช่วงสิ้นปี 2019 ส่งสัญญาถึงความเป็นไปได้ในการปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีดังกล่าว

ในการประมาณการรายไตรมาส เฟดปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯในปีนี้ สู่ระดับ 2.7% จากเดิมที่ 2.5% และได้ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้า สู่ระดับ 2.9% จากเดิมที่ระดับ 2.7% ส่วนการขยายตัวในปี 2020 คาดว่าจะชะลอตัวสู่ 2% ขณะที่อัตราการขยายตัวในระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 1.8%

เฟดยังคงคาดการณ์ตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานที่ระดับ 1.9% ในปีนี้ ส่วนในปีหน้า คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อพื้นฐานจะปรับตัวขึ้นสู่ 2.1% จากเดิมที่ระดับ 2.0% และตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไปยังคงอยู่ที่ 2.0% ส่วนในปี 2020 คาดว่าตัวเลขเงินเฟ้อทั่วไป และเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ 2.1% จากเดิมที่ 2.0%

ในด้านตัวเลขว่างงานนั้น เฟดคาดว่าจะลดลงสู่ระดับ 3.8% ในปีนี้ จากเดิมที่ 3.9% และปรับตัวลงต่อไปในปีหน้าสู่ระดับ 3.6% จากเดิมที่ 3.9% ส่วนตัวเลขในปี 2020 คาดว่าจะอยู่ที่ 3.6% จากเดิมที่ 4%

พาวเวลล์ เน้นย้ำว่ามีความเป็นไปได้ที่การเติบโตทางเศรษฐกิจจะได้แรงหนุนจากมาตรการปรับลดภาษีขนานใหญ่ของประธานาธิบดีทรัมป์ที่่ผ่านความเห็นชอบของสภาคองเกรสไปเมื่อเดือนธันวาคม และมีบางแง่มุมในแพ็กเกจดังกล่าวที่อาจช่วยเพิ่มอัตราการเติบโต