เอเอฟพี/มาร์เก็ตวอตช์ - ราคาน้ำมันพุ่งขึ้นในวันพุธ(21มี.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์ พบสต๊อกปิโตรเลียมสหรัฐฯลดลง ส่วนวอลล์สตรีทขยับลง หลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ยและชี้แนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง ส่วนทองคำปิดบวก
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 1.63 ดอลลาร์ ปิดที่ 65.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอนงวดส่งมอบเดือนเดียวกัน เพิ่มขึ้น 2.05 ดอลลาร์ ปิดที่ 69.47 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐฯรายงานในวันพุธ(21มี.ค.) ว่าคลังน้ำมันดิบสำรองของประเทศ ลดลง 2.6 ล้านบาร์เรล ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 16 มีนาคม สวนทางกับที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าจะเพิ่มขึ้น 2.6 ล้านบาร์เรล
ในข้อมูลเดียวกัน สต๊อกเบนซินก็ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล เช่นเดียวกับคลังสำรองน้ำมันกลั่นที่ลดลง 2 ล้านบาร์เรล ในขณะที่พวกนักวิเคราะห์คาดหมายไว้ว่าน้ำมันทั้งสองชนิดจะลดลงราวๆ 1.8 ล้านบาร์เรล
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯในวันพุธ(21มี.ค.) ปิดลบเล็กน้อยท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังเฟดปรับขึ้นดอกบี้ยและชี้ถึงแนวโน้มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจสหรัฐฯ ตามหลังมาตรการปรับลดภาษี
ดาวโจนส์ ลดลง 44.96 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 24,682.31 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 5.01 จุด (0.18 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,711.93 จุด แนสแดค ลดลง 19.02 จุด (0.26 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 7,345.29 จุด
เฟดดำเนินการตามความคาดหมายด้วยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.50-1.75% โดยอ้างเศรษฐกิจสหรัฐฯเติบโตแข็งแกร่งขึ้นและแนวโน้มการจ้างงาน
เบื้องต้นถ้อยแถลงของเฟดที่บ่งชี้ว่ายังไม่มีแผนเร่งรีบกระชับนโยบายการเงินอย่างทันทีทันใด ช่วยดันวอลล์สตรีทขยับขึ้น แต่ต่อมาตลาดแกว่งตัวสู่แดนลบ หลัง เจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด พูดถึงความเสี่ยงต่างๆต่อแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ในนั้นรวมถึงภัยคุกคามจากความเป็นไปได้ที่จะเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
ส่วนราคาทองคำในวันพุธ(21มี.ค.) ปิดบวกแรง เหตุดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับตะกร้าเงิน หลังเฟดตัดสินใจปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ เพิ่มขึ้น 9.60 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,321.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์