xs
xsm
sm
md
lg

สรุปภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ดัชนีและภาวะตลาดหุ้น น้ำมัน ทองคำ และตลาดเงินต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 มี.ค. 2561

- ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดร่วงลงกว่า 700 จุดเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อการลงโทษจีนที่ได้ขโมยทรัพย์สินทางปัญญาของบริษัทสหรัฐฯ โดยข่าวดังกล่าวส่งผลให้เกิดความวิตกกังวลว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ร่วงลง 724.42 จุด หรือ -2.93 ปิดที่ 23,957.89 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่วันที่ 8 ก.พ. ปีนี้ ส่วนดัชนี S&P500 ลดลง 68.24 จุด หรือ -2.52% ปิดที่ 2,643.69 จุด ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 9 ก.พ. และดัชนี Nasdaq ลดลง 178.61 จุด หรือ -2.43% ปิดที่ 7,166.68 จุด

- ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลที่ว่า สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน อาจจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า ดัชนี PMI ทั้งภาคผลิตและภาคบริการยูโรโซน ชะลอตัวลงในเดือน มี.ค.

ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 1.6% ปิดที่ 369.15 จุด

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,100.08 จุด ร่วงลง 209.07 จุด หรือ -1.70% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,167.21 จุด ลดลง 72.53 จุด หรือ -1.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดวัที่ 6,952.59 จุด ลดลง 86.38 จุด หรือ -1.23%

- ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนวงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นลอนดอน ยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของเงินปอนด์ หลังจากผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ได้ส่งสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังจากอัตราค่าจ้างในอังกฤษปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,952.59 จุด ลดลง 86.38 จุด หรือ -1.23%

- สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์ก ปิดบวกเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนแล้วเมื่อวานนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน เม.ย. เพิ่มขึ้น 5.9 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.45% ปิดที่ 1,327.4 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 3.2 เซ็นต์ หรือ 0.19% ปิดที่ 16.387 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 1.5 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.16% ปิดที่ 949.1 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือน มิ.ย. ลดลง 4.65 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือ 0.5% ปิดที่ 981.80 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อออนซ์

- สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์ก ปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการผลิตน้ำมันที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ และจากการที่นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากสัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้นติดต่อกันสองวันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ การร่วงลงอย่างหนักของตลาดหุ้นนิวยอร์ก เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างจีน และสหรัฐฯ นั้น ยังส่งผลให้บรรยากาศการซื้อขายในตลาดน้ำมันซบเซาลงด้วย

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือน เม.ย. ลดลง 87 เซ็นต์ หรือ 1.3% ปิดที่ 64.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือน พ.ค. ลดลง 56 เซ็นต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 68.91 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

- ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (22 มี.ค.) หลังจากไอเอชเอส มาร์กิต ระบุว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของยูโรโซน ชะลอตัวลงในเดือน มี.ค. ขณะที่ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้า หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในคำสั่งให้เรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน วงเงิน 6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ ที่ระดับ 1.2306 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.2329 ดอลลาร์สหรัฐฯ ขณะที่เงินปอนด์ อ่อนค่าลงสู่ระดับ 1.4109 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 1.4136 ดอลลาร์สหรัฐฯ และดอลลาร์ออสเตรเลีย อ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.7711 ดอลลาร์สหรัฐฯ จากระดับ 0.7760 ดอลลาร์สหรัฐฯ

ดอลลาร์สหรัฐฯ อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 105.63 เยน จากระดับ 106.12 เยน แต่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9506 ฟรังก์ จากระดับ 0.9504 ฟรังก์

ดัชนี DJIA ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 23,957.89 จุด ลดลง 724.42 จุด, -2.93%
ดัชนี NASDAQ ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 7,166.68 จุด ลดลง 178.61 จุด, -2.43%
ดัชนี S&P500 ตลาดหุ้นนิวยอร์ก ปิดที่ 2,643.69 จุด ลดลง 68.24 จุด, -2.52%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมัน ปิดที่ 12,100.08 จุด ลดลง 209.07 จุด, -1.70%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,167.21 จุด ลดลง 72.53 จุด, -1.38%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 6,952.59 จุด ลดลง 86.38 จุด, -1.23%
ดัชนี FTSE STI ตลาดหุ้นสิงคโปร์ ปิดที่ 3,491.37 จุด ลดลง 19.76 จุด, -0.56%
ดัชนี FBMKLCI ตลาดหุ้นมาเลเซีย ปิดที่ 1,876.87 จุด เพิ่มขึ้น 11.07 จุด, +0.59%
ดัชนี Jakarta Composite ตลาดหุ้นอินโดนีเซีย ปิดที่ 6,254.07 จุด ลดลง 58.76 จุด, -0.93%

ดัชนี HSI ตลาดหุ้นฮ่องกง ปิดที่ 31,071.05 จุด ลดลง 343.47 จุด, -1.09%
ดัชนี PSE Composite ตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ปิดที่ 8,124.45 จุด เพิ่มขึ้น 215.38 จุด, +2.72%

ดัชนี SSE Composite ตลาดหุ้นจีน ปิดที่ 3,263.48 จุด ลดลง 17.47 จุด, -0.53%
ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปิดที่ 2,496.02 จุด เพิ่มขึ้น 11.05 จุด, +0.44%
ดัชนี NIKKEI 225 ตลาดหุ้นญี่ปุ่น ปิดที่ 21,591.99 จุด เพิ่มขึ้น 211.02 จุด, +0.99%

ดัชนี TAIEX ตลาดหุ้นไต้หวัน ปิดที่ 11,005.84 จุด ลดลง 5.23 จุด, -0.05%
ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 5,937.20 จุด ลดลง 13.10 จุด, -0.22%

ดัชนี ALL ORDINARIES ตลาดหุ้นออสเตรเลีย ปิดที่ 6,043.20 จุด ลดลง 9.90 จุด, -0.16%


กำลังโหลดความคิดเห็น