xs
xsm
sm
md
lg

ผู้ถือหุ้น “นิปปอน แพ็ค” ไฟเขียวขายหุ้น PP ให้กองทุนสิงคโปร์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


นิปปอน แพ็ค เผยผู้ถือหุ้นอนุมัติขายหุ้น PP ให้กองทุนสิงคโปร์ Asia Alpha Equity Fund 1 400 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 0.70 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 280 ล้านบาท ด้านประธานกรรมการบริหาร “ศุภจักร ไตรรัตโนภาส” ระบุเม็ดเงินที่ได้เตรียมนำไปขยายธุรกิจอาหาร ภายใต้รูปแบบ “ควิก เซอร์วิส เรสเตอรอง” ทั้งแบรนด์ A&W อาหารแช่แข็ง และอาหารพร้อมรับประทาน รองรับกำลังซื้อที่เพิ่มขึ้น หนุนรายได้เติบโตก้าวกระโดดในอนาคต

นายศุภจักร ไตรรัตโนภาส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นิปปอน แพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ NPP เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 16 มีนาคม 2561 ได้มีมติให้บริษัทฯ เสนอหุ้นสามัญเพิ่มทุน จำนวน 400 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท แบบเฉพาะเจาะจงแก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่ Asia Alpha Equity Fund 1 ซึ่งเป็นกองทุนย่อยของ Asia Alpha Equity Master Fund ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ โดยมี Banjaran Asset Management Pte. Ltd. เป็นผู้จัดการกองทุน ในราคาเสนอขายหุ้นละ 0.70 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 280 ล้านบาท

สำหรับกองทุนดังกล่าว มีนโยบายเน้นการลงทุนในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม, เกษตรกรรม, เภสัชภัณฑ์, และอุตสาหกรรมการผลิตในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภายหลังการเสนอขายหุ้นต่อบุคคลในวงจำกัด Asia Alpha Equity Fund 1 จะถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 400 ล้านหุ้น คิดเป็นร้อยละ 24.38 ของจำนวนหุ้นทั้งหมด

ส่วนเม็ดเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนในครั้งนี้ บริษัทฯ จะนำไปใช้เพื่อขยายการลงทุนในธุรกิจอาหาร อาทิ สำหรับการเปิดสาขาร้านอาหาร ภายใต้รูปแบบ “ควิก เซอร์วิส เรสเตอรอง” ของเอแอนด์ดับบลิว (A&W) ซึ่งเป็นบริการอาหารจานด่วน ให้ครบจำนวน 100 สาขาภายในปี 2562 ซึ่งเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน บริษัทฯ มีร้านอาหารบริการด่วน A&W ทั้งสิ้น 33 สาขา และอยู่ระหว่างการเปิดเพิ่มอีก 67 สาขา ซึ่งคาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 469 ล้านบาท

ในปี 2561 บริษัทฯ มีแผนขยายสาขา A&W เพิ่มอีกประมาณ 30 สาขา คิดเป็นเงินลงทุนประมาณ 210 ล้านบาท ซึ่งแหล่งเงินทุนมาจากการเพิ่มทุนจากผู้ถือหุ้นเดิมในปี 2560 ที่ยังคงเหลืออยู่ 62.86 ล้านบาท และอีกส่วนหนึ่งมาจากเงินการเพิ่มทุนให้กับ Asia Alpha Equity Fund 1 ในครั้งนี้ ส่วนอีก 28 สาขา คาดว่าจะใช้เงินในการลงทุนอีกประมาณ 196 ล้านบาท คาดว่าใช้เงินทุนจากการแปลงสภาพใบสำคัญแสดงสิทธิ NPP-W3 ที่จะครบกำหนดในเดือนกันยายน 2561 และเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงินอีกบางส่วนหากเงินที่ได้จากการแปลงภาพวอร์แรนต์ไม่เพียงพอ

นายศุภจักร กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ลงนามในบันทึกความร่วมมือกับ บริษัท เชลล์ แห่งประเทศไทย จํากัด (shell) ในการเปิดสาขา A&W ภายในสถานีบริการน้ำมันของเชลล์ ไม่น้อยกว่า 10 สาขาต่อปี จนถึงปี 2566 และยังมีการเจรจาในลักษณะการให้บริการในสถานีบริการน้ำมันอื่น ๆ รวมถึงคอมมูนิตีมอลล์ต่าง ๆ เพื่อให้แผนการเปิดสาขาในปีนี้เป็นไปตามเป้าที่วาง

นอกจากนี้ ในปี 2561-2564 บริษัทฯ ยังมีแผนขยายฐานการผลิตอาหารแช่แข็ง และอาหารพร้อมรับประทานโดยมีการดำเนินการติดตั้งเครื่องจักรใหม่ และวัสดุอุปกรณ์เพื่อใช้ในกระบวนการผลิต และการดำเนินการในห้องเย็นต่าง ๆ เพื่อเพิ่มกำลังผลิตขึ้นเป็น 400 ตันต่อเดือน จากเดิมที่ผลิตได้เพียง 300 ตันต่อเดือน โดยใช้งบลงทุนประมาณ 68.5 ล้านบาท ซึ่งกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้นของอาหารแช่แข็ง และอาหารพร้อมทานนั้น เพื่อรองรับคำสั่งซื้อจากในประเทศ และต่างประเทศ


กำลังโหลดความคิดเห็น