“ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป” ลุยงานก่อสร้าง Jin Wellbeing County บนที่ดิน 140 ไร่ ย่านรังสิต หลังผ่าน EIA พร้อมดึงสถาปนิกและอินทีเรียดีไซน์ชั้นนำร่วมออกแบบโครงการ และพื้นที่ในรูปแบบ Universal Design รองรับการใช้ชีวิตคนทุกวัย หวังสร้างความแตกต่าง ด้วยการใช้นวัตกรรมด้านเทคโนโลยีวิเคราะห์ข้อมูลวางแผนดูแลผู้อยู่อาศัยแบบเฉพาะราย และนำระบบแจ้งตำแหน่งและแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินมาใช้งาน รวมถึงมีโรงพยาบาลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพและกายภาพบำบัดภายในโครงการ
นพ. บุญ วนาสิน ประธานกรรมการ บริษัท ธนบุรี เฮลท์แคร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ THG กล่าวว่า ได้เริ่มงานก่อสร้างโครงการ ‘Jin Wellbeing County’ แล้ว ภายหลังจากเปิดตัวโครงการไปเมื่อปี 60 ที่ผ่านมา โดยล่าสุด หลังจากที่ได้รับการอนุมัติรายงาน EIA ทำให้บริษัทมั่นใจว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ และรับรู้รายได้จากห้องชุดพักอาศัยในโครงการเฟสแรกประมาณไตรมาส 4/61 ตามแผนที่วางไว้ สำหรับโครงการดังกล่าวจะพัฒนาเป็นที่อยู่อาศัยพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกและบริการด้านสุขภาพอย่างครบวงจรแห่งแรกในไทย บนเนื้อที่ 140 ไร่ ย่านรังสิต
ทั้งนี้ ในเฟสแรกของโครงการจะประกอบด้วย 1. อาคารชุดพักอาศัยแบบโลว์ไรส์ 7 ชั้น รวม 1,380 ยูนิต พื้นที่ใช้สอย 43-46 และ 63-66 ตร.ม. ปัจจุบันกำลังเปิดขายคลัสเตอร์ 1-2 จำนวน 494 ยูนิต ราคายูนิตละประมาณ 4-6 ล้านบาท และมียอดทำสัญญาจองแล้วกว่า 100 ยูนิต 2. Aged Care Center ประกอบด้วย ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุแบบรายวันและพักค้างคืน คลินิกรักษาโรคทั่วไปและศูนย์กายภาพ และ 3. คลับเฮาส์ & เวลล์เนส เซ็นเตอร์ อาทิ สปา, ฟิตเนส, สระว่ายน้ำ, สระธาราบำบัด, ห้องนวดแผนไทย และกิจกรรมเสริมสุขภาพต่าง ๆ ที่ออกแบบให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
สำหรับโครงการ Jin Wellbeing County พัฒนาภายใต้คอนเซ็ปต์ “เมืองแนวคิดใหม่เพื่อวัยเกษียณ” เจาะกลุ่มคนวัยเกษียณ หรือผู้ที่กำลังเข้าสู่วัยเกษียณ และคนโสดที่วางแผนการใช้ชีวิตในอนาคต โดย THG นำประสบการณ์จากการดำเนินธุรกิจโรงพยาบาล และการดูแลสุขภาพกว่า 40 ปี มาต่อยอดเข้ากับแนวคิดการพัฒนาที่อยู่อาศัย เพื่อรองรับการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ โดยว่าจ้างบริษัทออกแบบ และตกแต่งภายในชั้นนำ อาทิ Openbox Architects ดูแลการออกแบบอาคาร, Shma ดูแลการออกแบบภูมิสถาปัตยกรรม, PIA interior ดูแลการออกแบบตกแต่งภายใน โดยใช้หลักการ Universal Design หรือการออกแบบเพื่อคนทุกวัย เช่น การเลือกใช้วัสดุรองรับการกระแทก, วัสดุกันลื่น, การออกแบบพื้นที่ส่วนต่าง ๆ เพื่อรองรับการใช้งานวีลแชร์ ฯลฯ และเน้นที่สีเขียวภายในโครงการกว่า 50%
ทั้งนี้ THG ได้สร้างความแตกต่างให้กับโครงการ โดยนำนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อดูแลความปลอดภัยให้แก่ผู้อยู่อาศัย ได้แก่ เทคโนโลยี Data Analytics มาใช้วางแผนการดูแลสุขภาพเฉพาะรายบุคคล เทคโนโลยีสายรัดข้อมืออัจฉริยะ Tracking System ซึ่งจะมีระบบแสดงตำแหน่งของผู้สวมใส่ ระบบแจ้งเตือนเมื่อเกิดอุบัติเหตุ การติดตั้งระบบ IoT (Internet of Things) พร้อมกล้อง CCTV และเจ้าหน้าที่พยาบาล 24 ชั่วโมง ทุกห้องพักเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ เช่น แนะนำเมนูเพื่อสุขภาพ ทำนัดตรวจสุขภาพ จองกิจกรรม ฯลฯ ผ่าน Jin Application นอกจากนี้ จะพัฒนา Rehabilitation Hospital & Aged Care หรือโรงพยาบาลเพื่อการฟื้นฟูสุขภาพและกายภาพบำบัด ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุ คลินิกรักษาโรค บริการให้คำปรึกษาจากนักโภชนาการ และนักจิตวิทยา
นพ. บุญ กล่าวว่า ปัจจัยที่ตัดสินใจพัฒนาโครงการ Jin Wellbeing County เพราะเห็นโอกาสที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุ โดยในปีนี้ทุก ๆ ประชากร 5 คน จะมีผู้สูงอายุ 1 คน หรือคิดเป็น 20% ส่งผลให้ประเทศไทยมีสัดส่วนผู้สูงอายุต่อประชากรโดยรวมเป็นอันดับ 3 ในภูมิภาคเอเชีย รองจากญี่ปุ่น และสิงคโปร์ และคาดว่าอีก 5 ปีข้างหน้า ประเทศไทยจะก้าวสู่สังคมผู้สูงอายุโดยสมบูรณ์ หรือมีสัดส่วนผู้สูงอายุ 1 ใน 4 ของประชากรโดยรวม
“เราต้องการให้ Jin Wellbeing County เป็นต้นแบบของโครงการเมืองแนวคิดใหม่ที่ออกแบบเพื่อการใช้ชีวิตของผู้สูงอายุ หรือผู้วางแผนใช้ชีวิตในวัยเกษียณ โดยนำจุดแข็งด้านประสบการณ์ธุรกิจโรงพยาบาล (Integrated Healthcare) มาต่อยอดพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มีบริการดูแลรักษาสุขภาพอย่างครบวงจร ทั้งด้านอาหารการกินโดยนำเทคโนโลยีเข้ามาเก็บและวิเคราะห์ข้อมูลเฉพาะแต่ละบุคคล การทำกิจกรรม การรักษาพยาบาล การฟื้นฟูร่างกายและจิตใจ รวมถึงมีบริการ Nursing Home ในยามที่ต้องการผู้ช่วยหรือผู้ดูแล” นพ. บุญ กล่าว