นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน มองหุ้นไทยสิ้นเดือนมีนาคม 2561 แกว่งกรอบ 1,818 จุด ส่วนระหว่างปี คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 1,910 จุด แนะนักลงทุนจับตากระแสต่างประเทศส่งผลต่อดัชนีตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ส่วนปัจจัยการเมืองภายในประเทศยังไม่มีน้ำหนักต่อการลงทุนมากนัก แม้มีข่าวการเลือกตั้งออกมาแล้ว แนะลงทุนหุ้นรับอานิสงส์ ๆ ได้แก่ BBL, CPALL, ERW, KBANK, PTTGC
นายไพบูลย์ นลินทรางกูร นายกสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน กล่าวถึงผลการสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุนต่อมุมมองในด้านการลงทุน และคาดการณ์ทิศทางดัชนีราคาหุ้นไทยในระยะ 1 เดือนข้างหน้า และต่อเป้าหมายดัชนี SET Index ในปี 2561 นี้ โดยมองว่าดัชนีหุ้นไทยในระยะสั้นยังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ ซึ่งคาดว่า ณ สิ้นเดือนมีนาคมนี้ เฉลี่ยจะอยู่ที่ 1,818 จุด
ขณะที่จุดสูงสุดของ SET Index ในระหว่างปีคาดว่าจะอยู่ที่ระดับเฉลี่ยประมาณ 1,910 จุด
อย่างไรก็ตาม นายไพบูลย์ มองว่า ปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อดัชนีหุ้นไทยในระยะสั้นนั้น มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ ทิศทางดอกเบี้ยของทางธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา หรือ Fed ที่จะประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่รองลงมา ได้แก่ ปัจจัยด้านนโยบายเศรษฐกิจและการค้าของสหรัฐอเมริกา ขณะที่ปัจจัยทางด้านการเมืองภายในประเทศ ตลอดจนถึงการเลือกตั้งนั้น ประเมินว่ายังไม่ส่งผลต่อน้ำหนักการลงทุนมากนัก
ในส่วนของปัจจัยบวกที่คาดว่าจะส่งผลต่อการปรับขึ้นของดัชนีตลาดหุ้นไทยนั้น มองว่ายังคงอยู่ที่การฟื้นตัวของเศรษฐกิจภายในประเทศ และการส่งออก เป็นหลัก
ทั้งนี้ ประเมินว่า 5 หุ้นเด่นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์ดีในการปรับตัวของดัชนี ได้แก่ BBL, CPALL, ERW, KBANK, PTTGC