กรุงศรี เปิดแผนเอสเอ็มอีรายกลาง-เล็ก ตั้งเป้าหมายสินเชื่อโต 8% เน้นเจาะกลุ่มลูกค้าญี่ปุ่นเน็ตเวิร์ก MUFG-ต่อยอดซัปพลายเชน พร้อมตรึงเอ็นพีแอล ที่ 4.2%
นายสยาม ประสิทธิศิริกุล ประธานคณะเจ้าหน้าที่ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา กล่าวว่า ธนาคารได้ตั้งเป้าหมายสินเชื่อกลุ่มธุรกิจ SME ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ในปีนี้ที่ระดับ 8% หรือมียอดคงค้างที่ระดับ 185,000 ล้านบาท จากสิ้นปี 2560 ที่อยู่ในระดับ 171,000 ล้านบาท เติบโต 11.8% จากปีก่อนหน้า โดยมียอดสินเชื่อใหม่ประมาณ 70,000-80,000 ล้านบาท ใกล้เคียงกับปีก่อนที่มีสินเชื่อปล่อยใหม่ที่ระดับ 76,000 ล้านบาท จากกลยุทธ์หลักใน 2 ด้าน คือ การเพิ่มลูกค้าญี่ปุ่นที่เชื่อมโยงอยู่ MUFG ซึ่งเป็นบริษัทแม่ อาทิ การเลือกกรุงศรีเป็นธนาคารผู้รับเงินโอนค่าสินค้าจากคู่ค้าต่างประเทศที่เป็นลูกค้า MUFG เป็นต้น และต่อยอดกลุ่มลูกค้าตามเครือข่ายซัปพลายเชน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการรองรับกลยุทธ์ดังกล่าวธนาคารได้ออกแคมเปญ SME Export 3+2 สำหรับผู้ส่งออกไทยที่มีคู่ค้าต่างประเทศที่เป็นลูกค้าของ MUFG และเลือกใช้กรุงศรี เป็นธนาคารหลักในการรับโอนค่าสินค้าจากคู่ค้าจะได้รับวงเงินสินเชื่อเพื่อการค้าต่างประเทศ ตลอดจนสิทธิพิเศษ ฟรีค่าธรรมเนียมโอนเงินขาเข้าและบริการจัดเอกสารส่งออก
สำหรับในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา สินเชื่อเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ขณะที่สินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ตั้งเป้าบริหารจัดการให้อยู่ในระดับเดิมที่ 4.2% จากทั้งระบบที่ 4.37% ซึ่งประเมินทิศทางเอ็นพีแอลกลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอีของธนาคารแล้ว ถือว่ามีสัญญาณที่ดี คือ ค่อนข้างทรงตัวจากช่วง 2-3 ปีที่เพิ่มขึ้นตลอด ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากภาวะเศรษฐกิจโดยรวมมีอัตราการเจริญเติบโตที่ดีขึ้น
“การเติบโตของสินเชื่อเอสเอ็มอีขนาดกลางและเล็กในปี 60 ที่สูงถึง 11.8% นั้น มาจากกลุ่มค้าปลีก-ค้าส่ง อุตสาหกรรมการผลิต เรียลเอสเตท และดีลเลอร์รถยนต์ ส่วนปีนี้การเติบโตของสินเชื่อที่ตั้งเป้าหมายที่ 8% เราประเมินถึงผลกระทบในหลาย ๆ ด้าน โดยหลัก ๆ ก็คือ การเข้ามาของเทคโนโลยีที่กระทบต่อธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ทั้งดิจิทัลแบงกิ้งที่กระทบต่อค่าธรรมเนียม Crowd Funding ที่กระทบกับการปล่อยสินเชื่อ หรือ E money-E Wallet ที่จะกระทบต่อเงินฝาก ซึ่งธนาคารก็มีแผน 3 ปี โดยใช้ Digital มาเป็นโอกาสเข้ามาเสริมความแกร่งให้ธุรกิจของลูกค้าในด้านความสะดวก รวดเร็ว และต้นทุนที่ต่ำลง”
