“ซีไอเอ็มบีไทย” เสริมทัพลุยรายใหญ่... หวังก้าวเป็นผู้นำแบงก์ไทยในอาเซียน

ซีไอเอ็มบีไทย มั่นใจเศรษฐกิจปีนี้โต 4% ภาคธุรกิจธนาคารสดใส ตั้งเป้าปี 61 สินเชื่อโต 5% และคุมเอ็นพีแอลไม่เกิน 5% พร้อมเตรียมเสริมทัพผู้เชี่ยวชาญลุยธุรกิจขนาดใหญ่ เพื่อผลักดันโครงการ Fast Forward เดินหน้าก้าวสู่การเป็นธนาคารระดับกลางแข็งแกร่งที่สุดด้านอาเซียนในประเทศไทย คาดจะเปิดตัวได้ภายใน 2 เดือนนี้

นายกิตติพันธ์ อนุตรโสตถิ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยถึงภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2561 ว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากปี 2560 ที่ร้อยละ 4 โดยมีการส่งออก และการท่องเที่ยว เป็นตัวขับเคลื่อนหลัก และช่วงครึ่งปีหลัง จะเริ่มเห็นกำลังซื้อและการลงทุนฟื้นตัวชัดเจนขึ้นจากการเดินหน้าโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ของภาครัฐ จะเป็นแรงขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจรุดหน้าอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งช่วยดึงดูดเม็ดเงินการลงทุนจากต่างประเทศ ก่อให้เกิดการจ้างงาน และการผลิตขยายตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเอสเอ็มอี การลงทุนจะฟื้นตัวอย่างเข้มแข็ง เกิดการกระจายตัวมากขึ้น ช่วยดึงความเชื่อมั่นนักลงทุนให้สูงขึ้น และผลักดันเศรษฐกิจไทยเติบโตดีขึ้นอย่างชัดเจน

ด้านแผนการดำเนินงานของธนาคารนั้น นายกิตติพันธ์ กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าหมายก้าวเป็นธนาคารขนาดกลางจากปัจจุบันเป็นธนาคารขนาดเล็กภายในช่วง 5 ปี (ปี 61-65) คือ กำไรก่อนหักสำรองฯ และภาษี อยู่ในช่วง 1.2-1.5 หมื่นล้านบาท เทียบเท่ากับธนาคารขนาดกลางทั้ง 3 แห่ง โดยธนาคารจะใช้กลยุทธ์ในการหาช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่มขึ้น และสร้างการขยายตัวทางด้านสินเชื่อ โดยในปี 61 ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 5% สูงขึ้นจากปีก่อนที่โต 3.2% ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวที่ใกล้เคียงกับการเติบโตของเศรษฐกิจไทย

พร้อมกันนี้ ธนาคารได้ตั้งเป้ารายได้ในส่วนของอัตราส่วนต่างกำไรและดอกเบี้ย (NIM) อยู่ที่ 3.8% ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 3.89% เนื่องจากปัจจุบันระดับ NIM ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ยาก จากการแข่งขันด้านดอกเบี้ยรุนแรง ทำให้ดอกเบี่้ยอยู่ในระดับต่ำ ดังนั้น จำเป็นต้องยึดนโยบายการปรับลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายการดำเนินต่อรายได้รวมลงเพื่อทำให้มีกำไรที่เพิ่มมากขึ้น ขณะเดียวกัน ธนาคารจะเพิ่มอัตราส่วนการตั้งสำรองฯ ต่อหนี้สูญให้มากกว่า 100% เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 93.2% เพื่อทำให้ธนคารมีความแข็งแกร่งมากขึ้น และใกล้ค่าเฉลี่ยของระบบธนาคารพาณิชย์ที่ 140%

ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ให้อยู่ในระดับต่ำกว่า 5% จากปีก่อนที่ 4.8% แม้ในช่วงไตรมาสแรกปีนี้จะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่จะทยอยปรับลดลงตั้งแต่ไตรมาส 3 เป็นต้อนไป โดยธนาคารจะใช้ทั้งแนวทางการปรับโครงสร้างหนี้ และตัดขายหนี้เสียออกไปบางส่วน จากปีก่อนที่ตัดขายหนี้เสียไปมูลค่า 3.7 พันล้านบาท

นายกิตติพันธ์ กล่าวถึงนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) อนุญาตให้ธนาคารพาณิชย์แต่งตั้ง Banking Agent ว่า ถือเป็นเรื่องที่ดีในการเพิ่มช่องทางการทำธุรกรรมของลูกค้า ซึ่งก่อนหน้านี้ธนาคารมีการเปิดสาขาในเซเว่น-อีเลฟเว่น อยู่แล้ว และกำลังหารือร่วมกันเพื่อแต่งตั้งให้เป็น Banking Agent เพิ่มเติมจากปัจจุบันที่ AIS ทำหน้าที่ Banking Agent ให้กับธนาคารอยู่แล้ว

“ธนาคารเชื่อมั่นผลงานปีนี้จะดีขึ้นต่อเนื่อง และนับเป็นก้าวแรกของโครงการ Fast Forward คือ การก้าวหน้าสู่เป้าหมายของการก้าวขึ้นเป็นธนาคารระดับกลางที่แข็งแกร่งที่สุดด้านอาเซียนในประเทศไทย หลังจากปี 60 ได้ปรับฐาน และกระบวนการทำงาน เพื่อเดินหน้าและเพิ่มอัตรากำลังในธุรกิจที่ธนาคารมีศักยภาพ” นายกิตติพันธ์ กล่าว

นายพรชัย ปัทมินทร รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ บรรษัทธุรกิจและวาณิชธนกิจธุรกิจขนาดใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจเพื่อก้าวสู่เป้าหมายธนาคารระดับกลางที่แข็งแกร่งที่สุดด้านอาเซียนในประเทศไทยว่า ธนาคารอยู่ระหว่างการปรับกลยุทธ์ หาจุดเด่น เพื่อแข่งขันกับธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ โดยเฉพาะจุดเด่นในระดับอาเซียน ซึ่งธนาคารมีความพร้อม และเครือข่ายอันแข็งแกร่ง โดยขณะนี้ ธนาคารอยู่ระหว่างการสร้างทีมเสริมทัพผู้เชี่ยวชาญ คาดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 2 เดือนนี้

“ธนาคารตั้งเป้ายืนอยู่บนระดับอาเซียน เพื่อสร้างให้ลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่ นึกถึงธนาคารต้องการต้องลงทุนหรือดำเนินธุรกิจในอาเซียน ล่าสุด ธนาคารสามารถดีลธุรกิจด้วยการดึงให้เคปเปลแลนด์ (Keppel Land) จากสิงคโปร์ มาร่วมทุนกับกลุ่มเคพีเอ็น ทำคอนโดมิเนียมย่านใจกลางกรุง 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 7 พันล้าน วงเงินการปล่อยสินเชื่อ 4 พันล้านบาท”