สสว.คาด GDP SME ปี 61 โตสูงสุดถึงร้อยละ 5.5 หลัง GDP ไตรมาส 4 โตสูงสุดในรอบ 11 ไตรมาส ดันภาพรวมตัวเลขปี 2560 โตทะลุเป้าร้อยละ 5.1 คิดเป็นมูลค่ากว่า 6.55 ล้านล้านบาท
นายสุวรรณชัย โลหะวัฒนกุล ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงตัวเลข GDP SME ไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ ที่ขยายตัวได้ถึงร้อยละ 6.1 นับเป็นการขยายตัวสูงที่สุดในรอบ 11 ไตรมาส ส่งผลให้ GDP SME ปี 2560 ขยายตัวร้อยละ 5.1 มากกว่าที่ สสว.ได้ประมาณการไว้ที่ร้อยละ 5 โดยมีมูลค่ากว่า 6.55 ล้านล้านบาท และมีสัดส่วนต่อ GDP รวมร้อยละ 42.2 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าที่มีสัดส่วนร้อยละ 42.1 สอดคล้องกับตัวเลขของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แถลง GDP ไตรมาสที่ 4 ปี 2560 ที่มีอัตราการขยายตัวร้อยละ 4 โดยปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญมาจากการขยายตัวในภาคการผลิต
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมเพื่อการส่งออกและภาคบริการของธุรกิจเอสเอ็มอี แม้ว่ามูลค่าการส่งออกสินค้าจะลดลง แต่ GDP SME ยังคงขยายตัวได้สูงจากการเติบโตของภาคการค้าและภาคบริการ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งภาพธุรกิจเอสเอ็มอีมีบทบาทค่อนข้างสูง โดยสาขาธุรกิจที่ขยายตัวเร่งขึ้นจากไตรมาสก่อน ได้แก่ธุรกิจโรงแรมและภัตตาคาร (15.3%) ธุรกิจการขนส่งและการคมนาคม (8.9%) และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ (5.6%) รวมทั้งภาคการค้าปลีกค้าส่งขยายตัวเร่งขึ้น จาก 6.4% เป็น 6.9% ในไตรมาสนี้ ส่วนในสาขาอื่นๆ ได้แก่ สาขาอุตสาหกรรมขยายตัว 2.9% ชะลอตัวลงจากการขยายตัว 4.1% ในไตรมาสก่อน ในขณะที่สาขาการก่อสร้างหดตัวลง 5.3%
อย่างไรก็ตาม ในปี 2561 สสว.ประมาณการการเติบโตของ GDP SME เท่ากับ 5.0-5.5% เพิ่มขึ้นจากปี 2560 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสาขาการก่อสร้างที่มีแนวโน้มกลับมาขยายตัวได้สูงอีกครั้ง จากโครงการลงทุนขนาดใหญ่ด้านโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐที่คาดว่าเริ่มดำเนินการได้ในปีนี้ อีกทั้งแนวโน้มการบริโภคภายในประเทศ รวมทั้งภาคการท่องเที่ยวที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องจะส่งผลดีต่อภาคการค้าและภาคการบริการที่ SME มีบทบาทอยู่มาก ในปี 2561