อารียา เชื่อตลาดอสังหาฯ ปี 61 โต 10% ชี้ ทำเลอีอีซี เติบโตสูงผู้ประกอบการแห่ลงทุน พร้อมเผยแผนลงทุนปี 61 เปิด 11 โครงการ มูลค่า 7,920 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขาย 14,370 ล้านบาท โต 30%
นายวิศิษฎ์ เลาหพูนรังสี ประธานกรรการและกรรมการผู้จัดการ บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) (A) เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทตั้งเป้าพัฒนาโครงการใหม่รวม 11 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,920 ล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 10 โครงการ มูลค่า 5,470 ล้านบาท และแนวสูง 1 โครงการ มูลค่า 2,450 ล้านบาท กว่า 80% เป็นสินค้าราคาต่ำกว่า 4 ล้านบาท
บริษัทตั้งเป้าเติบโต 30% โดยมียอดขาย 14,370 ล้านบาท แบ่งเป็นยอดขายโครงการแนวราบ 8,366 ล้านบาท และโครงการแนวสูง 6,004 ล้านบาท ปัจจุบัน แบ็กล็อกจำนวน 3,090 ล้านบาท รับรู้ในปีนี้ 1,000 ล้านบาท ส่วนการดำเนินงานในปี 2560 ที่ผ่านมา บริษัทมียอดขายรวม 11,250 ล้านบาท เติบโต 39% รายได้ 4,958 ล้านบาท มีกำไร 97 ล้านบาท
“ในปี 2560 ที่ผ่านมา อารียา มีการปรับตัวในหลาย ๆ ด้าน เพื่อเตรียมความพร้อมในเชิงธุรกิจในหลาย ๆ ด้าน เช่น การพัฒนาสินค้าและบริการที่มีศักยภาพ, การลงทุนด้านทรัพยากรบุคคล, ยกระดับระบบการให้บริการหลังการขาย, พัฒนาระบบก่อสร้างและงานออกแบบให้มีประสิทธิภาพเพื่อคุณภาพ, ปรับการสื่อสารการตลาดตามวิถึของผู้บริโภค, เน้นนโนบายรับผิดชอบต่อสังคมและลูกบ้าน รวมไปถึงการลงทุนด้าน ดิจิทัล เทคโนโลยี และระบบ CRM เป็นต้น” นายวิศิษฎ์ กล่าว
สำหรับ 11 โครงการใหม่ที่จะเปิดในปีนี้ โครงการแนวราบบริษัทมีที่ดินรองรับการพัฒนาโครงการไว้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งจะพัฒนาเป็นบ้านเดี่ยว บ้านแฝด และทาวน์เฮาส์ ส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 1 โครงการที่วางแผนจะเปิดตัวในปลายไตรมาส 2/61 เตรียมซื้อที่ดินในช่วง 1-2 เดือนนี้ มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นที่ดินใกล้ CBD และจะนำมาพัฒนาโดยใช้แบรนด์ “A Space” ราคาขายเฉลี่ย 4 ล้านบาทต่อยูนิต ซึ่งในปีนี้ บริษัทได้ตั้งงบซื้อที่ดินรวม 1,000 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่จะเน้นไปที่การซื้อที่ดินมาเพื่อพัฒนาโครงการแนวราบในปีต่อไป
ภาพรวมเศรษฐกิจในปี 2561 มีแนวโน้มขยาตัวต่ออย่างเนื่องจากในช่วงปลายปีที่ผ่านมา โดยเป็นผลมาจากการที่ภาครัฐมีความชัดเจนในการเดินหน้าลงทุนโครงสร้างระบบพื้นฐานต่าง ๆ ขณะที่ภาคการส่งออกยังมีทิศทางเติบโตได้ดี ส่วนภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในปีนี้ บริษัทยังเชื่อว่าจะมีอัตราการเติบโต ซึ่งคาดว่าจะมีอัตราการเติบโตได้ที่ประมาณ 10% มีปัจจัยจากภาคการท่องเที่ยว การลงทุนจากต่างชาติ โดยเฉพาะในทำเลอีอีซี เป็นพื้นที่ที่น่าจับตามองที่จะได้รับความนิยมที่จะมีผู้ประกอบการเข้ามาลงทุนมากขึ้น