ตลาดหลักทรัพย์ฯ เตรียมใช้เครื่องหมาย “C” (Caution) เตือนผู้ลงทุนเพิ่มความระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยง โดยเริ่มใช้ตั้งแต่ 2 ก.ค. 61
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เปิดเผยว่า ตลท. ให้ความสำคัญการเพิ่มคุณภาพของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) และการดูแลผู้ลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง และในช่วงเดือนกันยายน-ธันวาคม 2560 มีการหารือเกี่ยวกับเครื่องหมายบนหลักทรัพย์เพื่อดูแลผู้ลงทุนเพิ่ม โดยรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยเห็นว่าควรมีเครื่องหมาย “C” (Caution) เพิ่มในกรณีที่บริษัทจดทะเบียน มีฐานะการเงิน การดำเนินธุรกิจ ที่เปลี่ยนแปลงลดลงอย่างมีนัยสำคัญ เพื่อเตือนผู้ลงทุนเพิ่มความระมัดระวัง ศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจลงทุนหลักทรัพย์นั้น ๆ โดยเกณฑ์ดังกล่าวผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เรียบร้อยแล้ว
สำหรับหลักทรัพย์ที่ขึ้นเครื่องหมาย “C” ต้องซื้อด้วยบัญชีเงินสด (Cash Balance) โดย ตลท. จะประกาศให้ผู้ลงทุนทราบล่วงหน้า 1 วันทำการ และเพื่อให้ผู้ลงทุนได้รับทราบข้อมูลและแนวทางแก้ไขของ บจ. จึงให้ บจ. ชี้แจงข้อมูลภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ขึ้นเครื่องหมาย และทุกไตรมาส สำหรับระยะเวลาของการขึ้นเครื่องหมายจะมีผลจนกว่า บจ. จะแก้ไขเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นไปตามหลักการทั่วไปของการขึ้นเครื่องหมายประเภทอื่น ๆ
ทั้งนี้ เครื่องหมาย “C” เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กรกฎาคม 2561 โดยในส่วนของงบการเงิน จะพิจารณาจากงบรายไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2561 โดยบริษัทจดทะเบียนที่เข้าข่ายการขึ้นเครื่องหมาย “C” ต้องมีลักษณะตามข้อใดข้อหนึ่งที่ ตลท. กำหนดไว้ ได้แก่ 1. ฐานะการเงินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ พิจารณาจากส่วนผู้ถือหุ้นลดลงต่ำกว่าร้อยละ 50 ของทุนชำระแล้ว 2. หน่วยงานกำกับดูแลอื่น ๆ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สั่งแก้ไขธุรกิจ หรือระงับการดำเนินธุรกิจบางส่วน 3. ก.ล.ต. สั่งให้แก้ไขงบ หรือสั่งให้มีผู้สอบบัญชีพิเศษ (Special Audit) 4. บริษัทฯ ที่ผู้สอบบัญชีไม่ลงความเห็นงบการเงิน เนื่องจากถูกจำกัดขอบเขต โดยกรรมการหรือผู้บริหารบริษัท 5. ผู้สอบบัญชีแสดงความเห็นว่า งบการเงินนั้นไม่ถูกต้อง 6. ศาลล้มละลายรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ หรือรับคำฟ้องล้มละลาย และ 7. บริษัทที่มีลักษณะธุรกิจเข้าข่าย Cash Company คือ บริษัทจดทะเบียนมีสินทรัพย์ทั้งหมดอยู่ในรูปของเงินสด และหลักทรัพย์ระยะสั้น
