เอเชีย กรีน เอนเนอจี ใส่เกียร์รุกธุรกิจลอจิสติกส์ทางน้ำ สั่งต่อเรือลำเลียงเพิ่ม 10 ลำต่อทันที หลังจากรับมอบเรือ 4 ลำในไตรมาสสองนี้ ด้านผู้บริหาร “พนม ควรสถาพร” ระบุความต้องการใช้เรือขนส่งทางแม่น้ำในประเทศเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการขนส่งสินค้าเกษตรถึง 60% คาดทำรายได้จากธุรกิจลอจิสติกส์ทั่งปีแตะระดับ 5% ของรายได้รวม หนุนรายได้รวมโต 20-25% ส่งสัญญาณธุรกิจถ่านหินสดใส เดินหน้าทำตลาดจีน-เวียดนามเพิ่ม
นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE ผู้นำเข้าและจำหน่ายถ่านหินบิทูมินัส (ถ่านหินสะอาด) เปิดเผยว่า ในปี 2561 บริษัทฯ มีแผนการขยายธุรกิจลอจิสติกส์ เพื่อรองรับความต้องการในการขนส่งทางเรือที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากการขนส่งทางเรือยังคงมีต้นทุนทางการขนส่งที่ถูกเมื่อเทียบกับการขนส่งโดยวิธีอื่นเช่นการขนส่งทางรถบรรทุก
โดยได้มีการตั้งงบลงทุนสำหรับต่อเรือใหม่จำนวน 10 ลำ ในไตรมาส 2/2561 และคาดว่าจะทยอยส่งมอบให้กับบริษัทฯ ตั้งแต่ไตรมาส 4/2561 โดยในไตรมาส 2/2561 นี้จะมีการส่งมอบเรือที่ได้มีการสั่งต่อไปในช่วงก่อนหน้านี้ จำนวน 4 ลำ จากปัจจุบันที่มีเรือลำเลียง จำนวน 8 ลำ ส่งผลให้ในช่วงครึ่งปี 2561 บริษัทฯ จะมีเรือลำเลียง จำนวน 12 ลำ ตามแผนที่เคยวางไว้ ซึ่งเป็นการรองรับความต้องการใช้เรือขนทางแม่น้ำเพิ่มขึ้น บวกกับการท่าเรือของบริษัทฯ ที่อยู่ในจุดเชื่อมต่อทั้งทางบก และทางน้ำ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งบริษัทฯ มีการให้บริการลูกค้าทั้ง 2 รูปแบบ
ดังนั้น บริษัทฯ จึงตั้งเป้ารายได้จากธุรกิจลอจิสติกส์ทั้งขนส่งทางบกและทางน้ำในปี 2561 จะอยู่ที่ระดับ 5% ของรายได้รวม จากปีก่อนที่มีรายได้ 2.47% ของรายได้รวม หรือ 146.68 ล้านบาท และตั้งเป้าการเติบโตของรายได้รวมที่ 20-25%
“ปัจจุบัน ในประเทศไทย ความต้องการใช้เรือลำเลียงเพื่อขนส่งสินค้ามีความต้องการมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าเกษตร ซึ่งมีสัดส่วนถึง 60% ของมูลค่าตลาดรวม 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท หรือประมาณ 60 ล้านตันต่อปี และที่เหลือก็จะกระจายไปยังถ่านหิน และอื่น ๆ” นายพนม กล่าว
นายพนม ยังได้กล่าวถึงภาพรวมธุรกิจถ่านหินในช่วงครึ่งปีแรกว่า ยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าจะมีปัจจัยกดดันจากหลาย ๆ ด้าน แต่บริษัทได้มีการทำการตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ อาทิ จีน และเวียดนาม ส่งผลให้ปัจจุบันมีออเดอร์ส่งมอบถ่านหินถึงไตรมาส 2/2561 ประมาณ 4-5 แสนตัน
ดังนั้น จึงมั่นใจว่าปีนี้ผลการเดินงานของบริษัทจะมีการเติบโตเป็นไปตามเป้าที่วางไว้ โดยมียอดขายรวมอยู่ที่ 20-25% แบ่งเป็นสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศ 30% และในประเทศจะอยู่ที่ 70% และตั้งเป้ายอดขายถ่านหินทั้งปีที่ระดับ 3 ล้านตัน