อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค ฟอร์มดี ธุรกิจหลักเฟอร์นิเจอร์ กำไรพุ่ง 29% หลังรวมทุกกลุ่มธุรกิจ ทุบสถิติโชว์ ผลประกอบการปี 60 นิวไฮ รายได้รวม 1,478.68 ล้านบาท กำไรรวมโต 17% หรือ 73.05 ล้านบาท กางแผนปี 61 ตั้งเป้ารายได้โต 10-12% ชูกลยุทธ์บริหารจัดการต้นทุนการผลิต หนุนกำไรธุรกิจเฟอร์นิเจอร์โตต่อเนื่อง พร้อมรับรู้รายได้ธุรกิจพลังงานเห็นภาพชัดเจนในปีนี้
นายอารักษ์ สุขสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อีสต์โคสท์เฟอร์นิเทค จำกัด (มหาชน) (ECF) ผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ไม้ปาร์ติเคิลบอร์ด เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางพารา จำหน่ายทั้งในและต่างประเทศ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานปี 2560 ว่า บริษัทมีรายได้รวมทุกกลุ่มธุรกิจอยู่ที่ 1,478.68 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,392.49 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 6% และมีกำไรสำหรับงวดส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่ที่ 73.05 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่ 62.44 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 17% สำหรับธุรกิจหลัก คือ การเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ ทุบสถิติทำนิวไฮสร้างกำไรทั้งปี 2560 เติบโต 29% หรือเท่ากับ 71.49 ล้านบาท จากปีก่อนที่ 55.36 ล้านบาท
ขณะที่ผลประกอบการไตรมาส 4 ปี 2560 มีรายได้รวมทั้งสิ้น 388 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 378.07 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.63% สำหรับกำไรรวมธุรกิจอื่น ๆ และธุรกิจพลังงานมีกำไร 31.52 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 483%
ปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้ผลการดำเนินงานในปี 2560 ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากส่วนของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์ที่สามารถลดต้นทุนการผลิตได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการเข้าลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล ซึ่งลงทุนผ่านบริษัทเซฟ เอนเนอร์จี โฮลดิ้งส์ จำกัด
สำหรับแนวโน้มธุรกิจของบริษัทปี 2561 คาดว่าจะเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากธุรกิจผลิตและจำหน่าย
เฟอร์นิเจอร์ และการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งปีนี้จะเป็นปีที่เห็นการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรได้ชัดเจนหากทุกอย่างเป็นตามแผนที่วางไว้ ในส่วนของธุรกิจเฟอร์นิเจอร์จะมุ่งเน้นการปรับ กลยุทธ์และพัฒนาช่องทางการขายให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการหาแนวทางสร้างกำไร ลดต้นทุนด้านการบริหารจัดการให้ลดลง
ส่วนธุรกิจพลังงานทดแทนโรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวลขนาด 7.5 เมกะวัตต์ จ.นราธิวาส ได้เริ่ม COD และรับรู้ส่วนแบ่งกำไรในไตรมาส 3/60 จำนวน 6.7 ล้านบาท ไตรมาส 4/60 ที่ผ่านมา จำนวน 8.8 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าชีวมวลขนาดกำลังการผลิต 1 เมกะวัตต์ จำนวน 2 โรง จ.แพร่ คาดว่าจะ COD ในเดือน เม.ย. 61 และ ธ.ค. 61 ตามลำดับ รวมถึงโครงการโรงไฟฟ้ามินบู ขนาด 220 MW ประเทศพม่า ที่จะเริ่มรับรู้รายได้ภายในปีนี้ด้วย ล่าสุด ได้นำเข้าแผงโซลาร์สำหรับ 50 MW แรกครบแล้ว อยู่ระหว่างรอการติดตั้ง เมื่อก่อสร้างเฟส 1 แล้วเสร็จ จะดำเนินการก่อสร้างเฟส 2 ต่อทันที นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้อีกหลายโครงการ
“บริษัทฯ มั่นใจว่า รายได้รวมในปีนี้จะเติบโตจากปีก่อน ทั้งรายได้จากธุรกิจหลักผลิตและจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ คาดว่าจะเติบโตที่ 10-12% ประกอบกับรายได้ต่าง ๆ ที่จะทยอยรับรู้ในปีนี้จากบริษัทย่อย บริษัทร่วม ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยผลักดันให้รายได้ของบริษัทมีโอกาสเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง” นายอารักษ์ กล่าว