xs
xsm
sm
md
lg

ปี 61 คอนโดฯ เกาะแนวรถไฟฟ้ายังฮอต หวัง EEC ดึงเงินลงทุนหนุนออฟฟิศเติบโต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


“ไนท์แฟรงค์ฯ” ระบุตลาดอสังหาฯ ปี 61 คอนโดฯ ยังเติบโตต่อเนื่อง จับตาผู้ประกอบการแห่ลงทุนแนวรถไฟฟ้าที่กำลังก่อสร้างทั้งสายสีส้ม น้ำเงิน และส่วนต่อขยายสีเขียว ขณะที่ชาวต่างชาติในแถบเอเชียนิยมซื้อห้องชุดบริเวณสุขุมวิท เกาะแนวรถไฟฟ้าเช่นกัน

นายพนม กาญจนเทียมเท่า กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย จำกัด คาดการณ์ว่า ตลาดที่อยู่อาศัยในกรุงเทพฯ จะเป็นหนึ่งในตลาดที่มีแนวโน้มเติบโตมากที่สุด โดยโอกาสที่จะเติบโตอยู่ในเกณฑ์ประมาณ 5-7% ในแง่ของจำนวนยูนิต และมูลค่าของโครงการ สอดคล้องกับผู้พัฒนาโครงการรายใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่ยังเห็นว่า ตลาดมีโอกาสที่จะเติบโต จึงมีการวางแผนผลักดันธุรกิจจากภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพ

ขณะที่ตัวสินค้าและผลิตภัณฑ์ในปีหน้า 2561 จะยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมากนัก เช่น การวางผังห้องชุด ขนาดของยูนิต แต่ผู้พัฒนาโครงการจะมองหาการพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ (facility) เพื่อสร้างความแตกต่างของโครงการ และช่วยสนับสนุนการขาย โครงการส่วนใหญ่จะหันมาใช้ระบบที่จอดรถอัตโนมัติ (automate parking) เพื่อเพิ่มปริมาณที่จอดรถภายในโครงการ ซึ่งสามารถเพิ่มเนื้อที่ได้ประมาณ 20-30% จากระบบที่จอดรถแบบเดิม รวมถึงการใช้ระบบ home automation มากขึ้น

การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยในปีหน้าจะยังเน้นไปตามแนวรถไฟฟ้า โดยเฉพาะรถไฟฟ้าสายสีส้ม สายสีน้ำเงิน ส่วนต่อขยายสายสีเขียวที่กำลังก่อสร้างอยู่ ตลาดจะขยายตัวไปยังบริเวณพื้นที่ชานเมืองช่วยให้ผู้อยู่อาศัยเดินทางเข้าเมืองสะดวก คำนวนระยะเวลาถึงจุดหมายปลายทางได้ สำหรับตลาดบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ซึ่งอยู่บริเวณชานเมือง จะมีอัตราการขยายตัวที่ต่ำ ปัญหาการจราจรยังคงเป็นปัญหาหลัก เนื่องจากโครงการพัฒนาบ้านเดี่ยว และทาวน์เฮาส์ ตั้งอยู่ไกลจากรถไฟฟ้า การตัดถนนใหม่เพื่อรองรับปริมาณรถ และการจราจรที่เพิ่มขึ้นมีน้อยมาก ตลาดคอนโดจึงมีสถานะที่ได้เปรียบเนื่องจากอยู่ใกล้รถไฟฟ้า และยังใช้ที่ดินเพื่อก่อสร้างไม่มากอีกด้วย

ตลาดผู้ซื้อคอนโดเกรด B-C ยังคงเป็นคนไทยเป็นหลัก สำหรับคอนโดในพื้นที่บริเวณสุขุมวิท รถไฟฟ้าสายสีเขียว-แบริ่ง รถไฟฟ้าใต้ดิน-บางซื่อ ลาดพร้าว จะมีชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนมากขึ้น เช่น จีน, ฮ่องกง, มาเลเซีย, สิงคโปร์ และไต้หวัน ขณะที่นักลงทุนจากประเทศแถบอื่น ๆ มีบ้างแต่ไม่มาก

ปัจจัยที่ทำให้กลุ่มเป้าหมาย ตัดสินใจซื้อแตกต่างกันออกไปตามแต่ละตลาด 1. ตลาดคอนโด ผู้ซื้อจะคำนึงถึงทำเลเป็นหลัก เนื่องจากการเดินทางเข้าสู่เมืองเป็นปัจจัยสำคัญ นอกจากนี้ ตัวโครงการ, ขนาดของยูนิต, สิ่งอำนวยความสะดวก และราคาก็จะถูกนำมาพิจารณาเช่นกัน

2. ตลาดบ้าน และทาวน์เฮาส์ ผู้ซื้อจะคำนึงถึงพื้นที่การใช้สอยเป็นหลัก ตามด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ และทำเลของโครงการ

ขณะที่แนวโน้มตลาดทรัพย์สินเพื่อการอุตสาหกรรม การเติบโตจะขึ้นอยู่กับการสนับสนุนนโยบายจากภาครัฐ การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการให้สิทธิประโยชน์ทางภาษี โดยเฉพาะโครงการระเบียงเขตเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งถ้าเป็นรูปเป็นร่าง จะทำให้ตลาดอุตสาหกรรมเติบโตขึ้น ขณะเดียวกัน ก็จะช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนต่างชาติได้อีกด้วย ในส่วนของตลาดลอจิสติกส์ และคลังสินค้า ก็จะมีการเติบโตในเชิงของปริมาณ ตลาดสำนักงานมีทิศทางที่เป็นบวก เนื่องจากปริมาณอุปทาน (Supply) ที่เข้าตลาดยังมีอยู่น้อย ขณะที่เศรษฐกิจ และภาคธุรกิจ ยังมีแนวโน้มการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ความต้องการใช้สำนักงานจะเพิ่มมากขึ้น อัตราค่าเช่ายังคงมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง.



กำลังโหลดความคิดเห็น