รฟม.แจ้งปิดเบี่ยงจราจรถนนติวานนท์ช่วง 4 ทุ่ม-ตี 4 ตั้งแต่ 20 พ.ย. เพื่อทำเข็มทดสอบรถไฟฟ้าสีชมพู และถนนรามอินทรา จะเริ่มเบี่ยงจราจร 1 ธ.ค. ด้านตำรวจห่วงรามอินทราวิกฤต แนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยสามารถใช้ถนนปัญญาอินทรา ถนนเสรีไทย หรือขึ้นทางด่วนอาจณรงค์
นายสุรเชษฐ์ เหล่าพูลสุข ผู้ช่วยผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ในฐานะผู้อำนวยการโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ได้แถลงข่าวการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อทำเข็มทดสอบและรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภค สำหรับการเตรียมงานก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี ว่า ปัจจุบันโครงการอยู่ในช่วงของการเข้าพื้นที่เพื่อเริ่มดำเนินการรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคสำหรับการเตรียมงานก่อสร้าง โดยในวันนี้ (20 พ.ย.) จะเริ่มปิดเบี่ยงช่องจราจรถนนติวานนท์ บริเวณคลองบางตลาด ถึงกรมชลประทาน และบริเวณถนนรามอินทรา ตรงข้ามสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองบังคับการ 8 เพื่อดำเนินงานเข็มทดสอบ ซึ่งเป็นการทดสอบการรองรับน้ำหนักของเสาเข็ม และจะดำเนินงานรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 นี้
ทั้งนี้ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มี 30 สถานี ระยะทาง 34.5 กิโลเมตร ระยะเวลาก่อสร้าง 3 ปี 3 เดือน (39 เดือน) และดำเนินการงานเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง 30 ปี ซึ่งมีรายละเอียดของสัญญาดังนี้ มีศูนย์ซ่อมบำรุง 1 แห่ง และอาคารจอดแล้วจร 1 แห่ง ที่บริเวณสถานีมีนบุรีเป็นหนึ่งในแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล หรือ M-MAP เพื่อรองรับการเดินทางของประชาชนในพื้นที่ด้านเหนือของกรุงเทพมหานคร โดยแนวเส้นทางเริ่มต้นที่สถานีศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรี ซึ่งถือเป็นจุดเชื่อมต่อกับระบบรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ บริเวณใกล้แยกแคราย ผ่านถนนติวานนท์จนถึงห้าแยกปากเกร็ด แล้วจึงเลี้ยวเข้าถนนแจ้งวัฒนะผ่านเมืองทองธานี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ไปเชื่อมต่อ กับรถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่แยกหลักสี่บริเวณริมถนนวิภาวดี-รังสิต และเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่ บนถนนพหลโยธิน บริเวณวงเวียนอนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ เข้าสู่ถนนรามอินทรา สิ้นสุดปลายทางที่สถานีมีนบุรี ซึ่งจะบรรจบกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี
นายวิฑูรย์ สลิลอำไพ ตัวแทนจาก บริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด กล่าวว่า ในการปิดเบี่ยงช่องจราจรเพื่อดำเนินงานเข็มทดสอบนั้นจะดำเนินการ 2 จุด ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 จนถึง 15 มีนาคม 2561 ได้แก่ จุดแรก ถนนติวานนท์ บริเวณคลองบางตลาด ถึงกรมชลประทาน ระยะทางประมาณ 210 เมตร ตั้งแต่วันที่ 20 พฤศจิกายน 2560 ถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561 จะปิดการจราจรช่องทางขวาสุด (ชิดเกาะกลางถนน) 1 ช่องจราจร ทั้งขาเข้า-ขาออก ตลอด 24 ชั่วโมง และปิดการจราจรเพิ่มอีก 1 ช่องทาง (ขาออก) ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. จุดที่ 2 ถนนรามอินทรา บริเวณฝั่งขาเข้า ตรงข้ามสถานีตำรวจทางหลวง 2 กองบังคับการ 8 (ใกล้ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์) ระยะทางประมาณ 200 เมตร ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 ถึง วันที่ 15 มีนาคม 2561 จะปิดการจราจรช่องทางซ้ายสุด 1 ช่องจราจร บริเวณฝั่งขาเข้า ตั้งแต่เวลา 22.00-04.00 น. เฉพาะวันที่มีการขนย้ายเครื่องจักรหนักและวันที่มีงานเทคอนกรีต
ส่วนในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2560 เป็นต้นไป โครงการจะเริ่มปิดเบี่ยงจราจรเพื่อดำเนินงานในส่วนรื้อย้ายระบบสาธารณูปโภคใต้ดิน โดยจะทยอยดำเนินการรื้อย้ายในช่วงสั้นๆ ช่วงละประมาณ 200 เมตร เมื่อรื้อย้ายแล้วเสร็จจะคืนผิวจราจรก่อน จากนั้นจึงจะขยับปิดผิวจราจรช่วงใหม่อีก 200 เมตร ดำเนินการเช่นนี้ไปจนเสร็จ ยกเว้น 8 จุดสำคัญที่จำเป็นต้องปิดการจราจรเพิ่มเติมอีก 1 ช่องจราจร ในช่วงเวลา 22.00-04.00 น. ได้แก่ 1. บริเวณเชิงสะพานพระราม 4 (PK 6 - PK 7) 2. บริเวณคลองประปา-เชื่อมสู่ถนนวิภาวดีรังสิต (PK 11 - PK 13) 3. บริเวณวงเวียนบางเขน (PK 16 - PK 17) 4. บริเวณสนามกอล์ฟทหารบก (PK 17 - PK 18) 5. บริเวณแยกลาดปลาเค้า (PK 18 - PK 23) 6. บริเวณแยกคู้บอน-ถนนรามอินทรา 87 (PK 23 - PK 24) 7. บริเวณคลองบางชัน (PK 26) และ 8. บริเวณแยกเมืองมีน (PK 28 - PK 29)
ด้าน พล.ต.ต.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ด้านจราจร) กล่าวว่า ที่ผ่านมาทางโครงการได้มีการประชุมและชี้แจงเรื่องแนวทางการปิดเบี่ยงจราจรอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการจัดประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมทั้งในเรื่อง การจัดการจราจรและจัดสรรกำลังเจ้าหน้าที่สำหรับเร่งระบายรถในชั่วโมงเร่งด่วน โดยการปิดเบี่ยงจราจรในบริเวณถนนติวานนท์นั้นคาดว่าไม่ส่งผลกระทบมากนัก เนื่องจากบริเวณที่ปิดการจราจรมีปริมาณรถไม่หนาแน่น ยกเว้นช่วงเช้าและช่วงเย็น
แต่สำหรับการปิดการจราจรบริเวณถนนรามอินทรานั้นอาจมีรถติดสะสมได้ จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงเส้นทาง โดยสามารถใช้ถนนปัญญาอินทรา ถนนเสรีไทย หรือขึ้นทางด่วนอาจณรงค์-รามอินทรา หน้าศูนย์การค้าแฟชั่น ไอส์แลนด์ ทดแทนได้
ส่วนกรณีการปิดเบี่ยงจราจรเพื่อรื้อย้ายสาธารณูปโภคนั้น เบื้องต้นคาดว่าจะไม่มีการปิดจุดกลับรถในพื้นที่ และเน้นการปิดกั้นเพียง 1 ช่องจราจรเท่านั้น นอกจากนี้ยังได้จัดเส้นทางสำหรับหลีกเลี่ยงการจราจรไว้หลายเส้นทาง เช่น ถนนติวานนท์ สามารถเลี่ยงเข้าสู่ถนนสามัคคีเพื่อไปยังถนนประชาชื่น หรือถนนเลี่ยงเมืองปากเกร็ดได้ ส่วนถนนแจ้งวัฒนะ สามารถเลี่ยงเข้าซอยแจ้งวัฒนะ 14 เพื่อออกสู่ถนนกำแพงเพชร 6 ด้าน ถนนพหลโยธิน สามารถเลี่ยงเข้าซอยพหลโยธิน 48 เพื่อออกสู่ถนนรามอินทรา และจากถนนรามอินทรา สามารถเลี้ยวเข้าซอยมัยลาภ เพื่อออกสู่ถนนเกษตร-นวมินทร์ หรือเข้าซอยรามอินทรา 39 เพื่อออกสู่ถนนวัชรพลและถนนสุขาภิบาล 5 ได้ และยังสามารถเลี้ยวเข้าถนนปัญญาอินทรา หรือถนนพระยาสุเรนทร์ เพื่อมุ่งหน้าสู่ถนนหทัยราษฎร์ เป็นต้น ซึ่งแผนการจัดจราจรดังกล่าวน่าจะช่วยระบายรถออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ในอนาคตอาจมีการปรับแผนการจัดจราจรเพิ่มเติมเมื่อมีการปิดถนนจริง เพื่อให้ประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนได้รับความสะดวกมากที่สุด
ทั้งนี้ สําหรับประชาชนผู้ใช้เส้นทางสามารถสอบถามรายละเอียดการเบี่ยงเส้นทางจราจรได้ที่ โทรศัพท์ 09-8827-5555