xs
xsm
sm
md
lg

เอ็กซิมฯ ปล่อยกู้ บมจ. ไทยลักซ์ฯ 660 ล.

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

EXIM BANK ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงิน 2,205 ล้านเยน หรือประมาณ 661.50 ล้านบาท ให้แก่ บมจ. ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ ลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพบนเกาะคิวชู ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 8 โครงการ กำลังการผลิตรวม 1,000 kW

นายพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) กล่าวว่า EXIM BANK ได้ร่วมลงนามกับ ดร. พงศ์รักษ์ จินดาสมบัติเจริญ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) และพลเอกเชาวฤทธิ์ ประภาจิตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) ในสัญญาสนับสนุนทางการเงินของ EXIM BANK มูลค่า 2,205 ล้านเยน หรือประมาณ 661.50 ล้านบาท เพื่อลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ จำนวน 8 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 1,000 กิโลวัตต์ (kW) หรือเทียบเท่าโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 8 เมกะวัตต์ (MW) ในเมืองเบปปุ จังหวัดโออิตะ ที่เป็นแหล่งน้ำพุร้อนที่ใหญ่ที่สุดของประเทศญี่ปุ่น ผลิตไฟฟ้าขายให้แก่ Kyushu Electric Power Company อัตราค่าไฟ 40 เยนต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 15 ปี ณ EXIM BANK สำนักงานใหญ่ เมื่อเร็ว ๆ นี้

กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK กล่าวเพิ่มเติมว่า EXIM BANK พร้อมให้การสนับสนุนผู้ประกอบการไทยที่ลงทุนในต่างประเทศ โดยเฉพาะการลงทุนในธุรกิจพลังงานรูปแบบใหม่ ซึ่งบริษัท ไทยลักซ์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบการไทยรายแรกที่ลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพที่ประเทศญี่ปุ่น เป็นการนำเอาพลังงานความร้อนที่อยู่ใต้ดินขึ้นมาใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่น ที่ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน ซึ่งมีเสถียรภาพ และเหมาะสมกับภาวะเศรษฐกิจ และสภาพแวดล้อมทางสังคมในญี่ปุ่น

ทั้งนี้ การสนับสนุนการลงทุนของผู้ประกอบการไทยในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในญี่ปุ่น นอกจากเป็นต้นแบบให้ผู้ประกอบการไทยรายอื่นลงทุนในธุรกิจนี้แล้ว ยังช่วยให้ผู้ประกอบการไทยได้เรียนรู้เทคโนโลยี และการผลิตพลังงานหมุนเวียนจากแหล่งพลังงานธรรมชาติ ต่อยอดการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืนของทั้งสองประเทศ ซึ่งเป็นพันธกิจโดยตรงและสอดคล้องกับนโยบายของ EXIM BANK ที่จะบุกเบิกและพัฒนาบริการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ประกอบการไทยในเวทีการค้าการลงทุนระหว่างประเทศในโลกยุคใหม่
“บีซีพีจี” เผย Q3/60 ฟันกำไร 514 ล้านบาท +43% จากปีก่อน
“บีซีพีจี” เผย Q3/60 ฟันกำไร 514 ล้านบาท +43% จากปีก่อน
บมจ. บีซีพีจี และบริษัทย่อย ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3 ของปี 2560 มีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าในประเทศไทย และประเทศญี่ปุ่น ประมาณ 854 ล้านบาท ซึ่งมาจากการจำหน่ายไฟฟ้าของโครงการลดลงร้อยละ 4 จากไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2559 พร้อมทยอยเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพในประเทศอินโดนีเซีย ตั้งแต่ต้นปีเป็นครั้งแรก รวมถึงจากโรงไฟฟ้าพลังงานลมในฟิลิปปินส์ เพิ่มเติมอีกประมาณ 360 ล้านบาท ทำให้ผลกำไรสุทธิก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน และรายการพิเศษ เพิ่มขึ้นเป็น 678 ล้านบาท เติบโตจากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วสูงถึงประมาณร้อยละ 83 หรือเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ร้อยละ 56
กำลังโหลดความคิดเห็น