แบงก์ชาติ อนุมัติ QR Code ของ 5 แบงก์ “กรุงเทพ-กสิกรฯ-กรุงไทย-ไทยพาณิชย์-ออมสิน” ออกจาก Sandbox พร้อมให้บริการทั่วไปได้ และเดินหน้าทดสอบบริการต่อยอดในส่วนอื่น อาทิ บัตรเครดิตต่อไป
นางสาวสิริธิดา พนมวัน ณ อยุธยา ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายระบบการชำระเงินและเทคโนโลยีทางการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ตามที่ ธปท. ได้ร่วมกับสถาบันการเงิน ผู้ให้บริการชำระเงิน และผู้ให้บริการเครือข่ายบัตรระดับสากล พัฒนามาตรฐาน Thai QR Code Payment ที่ได้มาตรฐานสากล เพื่อใช้ในประเทศไทย และเปิดให้สถาบันการเงิน และผู้ให้บริการชำระเงิน เข้าร่วมทดสอบการนำมาตรฐานดังกล่าวมาใช้ในการให้บริการชำระเงินผ่าน mobile application ใน regulatory sandbox ของ ธปท. โดยปัจจุบันมีธนาคารที่เข้าร่วมการทดสอบ 8 ธนาคารนั้น ณ วันที่ 13 พฤศจิกายน 2560 ธปท. ได้อนุญาตให้สถาบันการเงินที่เข้าร่วมทดสอบโครงการ QR Code Payment สำหรับการให้บริการผ่านพร้อมเพย์ ซึ่งมีความพร้อมและผ่านการทดสอบตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดออกจาก regulatory sandbox และสามารถให้บริการเป็นการทั่วไปได้ จำนวน 5 ราย คือ ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารออมสิน
ทั้งนี้ ได้พิจารณาความพร้อมครอบคลุมเรื่องสำคัญ คือ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การบริหารความเสี่ยงการคุ้มครองผู้บริโภคและความปลอดภัย รวมทั้งการเตรียมสาขา และ call center ของธนาคาร เพื่อให้สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างต่อเนื่อง และมีประสิทธิภาพ บริการชำระเงินด้วย QR Code ของ 5 ธนาคารที่ผ่านการทดสอบในครั้งนี้ เป็นการชำระเงินที่ต่อยอดจากบริการพร้อมเพย์ โดยลูกค้าสามารถใช้ mobile application ของธนาคารที่ได้รับอนุญาตสแกน QR Code มาตรฐานที่ร้านค้า เพื่อชำระเงินได้ทันที เหมาะกับการชำระเงินพื้นฐานที่ไม่ซับซ้อน เช่น ร้านอาหาร, ร้านค้าขนาดกลางและขนาดเล็ก, ตลาดสด, รถแท็กซี่, มอเตอร์ไซด์รับจ้าง เป็นต้น และในระยะต่อไปธนาคารจะมีการทดสอบบริการเพิ่มเติมให้สามารถรองรับแหล่งเงินได้มากขึ้น อาทิ บัตรเครดิต และต่อยอดบริการชำระเงินใหม่ ๆ ต่อไป
สำหรับธนาคารอื่นที่อยู่ระหว่างการทดสอบโครงการ QR Code Payment ก็มีผลการทดสอบที่ดี ซึ่ง ธปท. จะแจ้งความคืบหน้าให้ทราบต่อไป
นางปรัศนี อุยยามะพันธุ์ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ธนาคารมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ผ่านการทดสอบโครงการ QR Code Payment ใน Regulatory Sandbox ของธนาคารแห่งประเทศไทย และอนุญาตให้บริการชำระเงินผ่าน Mobile Application ด้วยความพร้อมที่ครอบคลุมเรื่องสำคัญในทุกด้าน นับต่อจากนี้ธนาคารเตรียมขยายผลในวงกว้างมากขึ้น ทั่วประเทศ ไปยังร้านค้า ตลาดสด พันธมิตรในกลุ่มรถรับจ้างสาธารณะ ธุรกิจขายตรง บริษัทขนส่งสินค้า รวมถึงร้านค้าโรงอาหารของกลุ่มลูกค้า Payroll ปัจจุบันมีร้านค้าที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมากกว่า 17,000 ร้านค้า คาดว่าปริมาณธุรกรรมพร้อมเพย์ จะเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 10-20% นับต่อจากนี้