กรมบัญชีกลางเร่งพัฒนาระบบรับชำระเงินกลางของบริการจากภาครัฐ หวัง เพิ่มช่องทางสะดวกและรวดเร็วในการให้บริการรับชำระเงินค่าบริการจากประชาชน นิติบุคคลหรือภาคธุรกิจให้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมทั้งยังช่วยให้การนำเงินส่งคลังของหน่วยงานภาครัฐเข้าสู่ระบบเงินคงคลังได้รวดเร็วยิ่งขึ้นด้วย คาด เดือน ม.ค. 61 จะเริ่มใช้ได้กับ 20 หน่วยงานนำร่องก่อนจะขยายผลให้ครบทุกส่วนราชการ
นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าระบบการรับชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ หรือ e-Payment Portal of Government เป็นระบบงานเบ็ดเสร็จสำหรับการรับชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ของส่วนราชการทุกหน่วยงาน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการรับชำระเงินค่าบริการจากประชาชนให้กับหน่วยงานภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร และครอบคลุมการทำธุรกรรมระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนและประชาขน เช่น การจ่ายค่าปรับ ค่าเช่า ค่าใบรับรอง ค่าธรรมเนียม โดยไม่จำเป็นต้องมาติดต่อที่ส่วนราชการด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันบางกรณีผู้รับบริการต้องติดต่อกับหลายหน่วยงานเพื่อขอรับบริการจึงทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก ระบบนี้จะช่วยให้ผู้รับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดระยะเวลาและประหยัดค่าเดินทาง เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคไทยแลนด์ 4.0
โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวต่ออีกว่า การชำระเงินของประชาชน นิติบุคคล หรือภาคธุรกิจ สามารถใช้งานผ่านระบบเว็บไซต์กลางของระบบการรับชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ และเลือกรายการที่ต้องชำระในระบบของบริการหน่วยงานภาครัฐที่กำหนดไว้ เมื่อถึงขั้นตอนการชำระเงิน สามารถเลือกชำระเงินผ่าน Online Payment โดยจ่ายชำระด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต หรือพิมพ์ใบแจ้งการชำระเงิน (Bill Payment) จากระบบฯ เพื่อ
นำไปชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ได้ เช่น Counter ธนาคาร, Counter Service, Internet Banking, Mobile Banking เป็นต้น
ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานต่างๆ โดยจะเริ่มใช้งานกับหน่วยงานนำร่องจำนวน 20 หน่วยงาน ภายในเดือนมกราคม 2561 ก่อนจะขยายผลครบทุกส่วนราชการต่อไป
นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่าระบบการรับชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ หรือ e-Payment Portal of Government เป็นระบบงานเบ็ดเสร็จสำหรับการรับชำระเงินผ่านระบบออนไลน์ของส่วนราชการทุกหน่วยงาน
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางการให้บริการรับชำระเงินค่าบริการจากประชาชนให้กับหน่วยงานภาครัฐด้วยอิเล็กทรอนิกส์อย่างครบวงจร และครอบคลุมการทำธุรกรรมระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนและประชาขน เช่น การจ่ายค่าปรับ ค่าเช่า ค่าใบรับรอง ค่าธรรมเนียม โดยไม่จำเป็นต้องมาติดต่อที่ส่วนราชการด้วยตนเอง ซึ่งปัจจุบันบางกรณีผู้รับบริการต้องติดต่อกับหลายหน่วยงานเพื่อขอรับบริการจึงทำให้เสียเวลาเป็นอย่างมาก ระบบนี้จะช่วยให้ผู้รับบริการได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดระยะเวลาและประหยัดค่าเดินทาง เหมาะกับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ในยุคไทยแลนด์ 4.0
โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวต่ออีกว่า การชำระเงินของประชาชน นิติบุคคล หรือภาคธุรกิจ สามารถใช้งานผ่านระบบเว็บไซต์กลางของระบบการรับชำระเงินกลางของบริการภาครัฐ และเลือกรายการที่ต้องชำระในระบบของบริการหน่วยงานภาครัฐที่กำหนดไว้ เมื่อถึงขั้นตอนการชำระเงิน สามารถเลือกชำระเงินผ่าน Online Payment โดยจ่ายชำระด้วยบัตรเครดิต/บัตรเดบิต หรือพิมพ์ใบแจ้งการชำระเงิน (Bill Payment) จากระบบฯ เพื่อ
นำไปชำระเงินผ่านช่องทางต่างๆ ได้ เช่น Counter ธนาคาร, Counter Service, Internet Banking, Mobile Banking เป็นต้น
ขณะนี้กรมบัญชีกลางได้หารือร่วมกับสมาคมธนาคารไทยเกี่ยวกับแผนการดำเนินงานต่างๆ โดยจะเริ่มใช้งานกับหน่วยงานนำร่องจำนวน 20 หน่วยงาน ภายในเดือนมกราคม 2561 ก่อนจะขยายผลครบทุกส่วนราชการต่อไป