นายกรัฐมนตรี ชู เศรษฐกิจเติบโตก้าวหน้า ส่งออกดีขึ้น 10.5% คาดทั้งปีโตตามเป้า 5% เผย ครม. พิจารณาช่วยผู้มีรายได้น้อยทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่อย่าเพิ่งถามให้เท่าไหร่ คาดทำบัตรลักษณะใยแมงมุม ขึ้นได้หมดแค่ตามวงเงิน หวังให้คนจนได้ขึ้นฟรีจริง ตั้งงบ 4.6 หมื่นล้าน แต่แย้มตั้งกองทุนหาเงินเพิ่ม ให้เอกชนช่วย
วันนี้ (29 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ
หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีเศรษฐกิจไทยในขณะนี้ ว่า วันนี้เศรษฐกิจเรามีความเจริญเติบโตก้าวหน้าในหลายประเด็น ทั้งเรื่องการค้า การส่งออกกับประเทศต่างๆ ที่ดีขึ้นมา 10.5 เปอร์เซ็นต์ และคาดว่า ทั้งปีจะได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ไม่ต่ำกว่า 5 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากที่ผ่านมาเราแก้ไขปัญหาทั้งระบบ ถึงแม้ความเสี่ยงจะมีอยู่ในเรื่องค่าเงิน และสถานการณ์ทางการเมือง ดังนั้น ตนมาอยู่ตรงนี้เพื่อทำให้ทุกอย่างสงบเรียบร้อย ในส่วนตัวตนก็เสียหาย แต่ถ้าไม่เข้ามามันจะเป็นอย่างนี้ได้หรือไม่ เขาจะทำกันได้หรือเปล่าไม่รู้
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้พิจารณาโครงการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่อย่าเพิ่งถามว่าจะให้จำนวนเงินเท่าไร เพราะยังเป็นเรื่องของระยะที่ 1 สำหรับผู้ที่มาลงทะเบียนผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีทั้งเรื่องของค่าน้ำ ค่าไฟ รัฐบาลก็มีมาตรการไว้ส่วนหนึ่งแล้ว อีกส่วนก็จะเป็นเรื่องของค่าโดยสารรถ ซึ่งคาดว่าจะทำเป็นลักษณะของใยแมงมุม ขึ้นได้ทั้งรถไฟ รถเมล์ รถไฟฟ้า แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกคนจะได้ทั้งหมด อาจจะเป็นแค่วงเงินจำนวนหนึ่ง ถ้าวงเงินในบัตรหมดก็ต้องจ่ายเงิน ถือเป็นการช่วยลดภาระให้ส่วนหนึ่ง จะได้ทั่วถึงให้กับคนจนจริงๆ ไม่เช่นนั้น คนรวยคนมีเงินก็ขึ้นรถฟรีทั้งหมด ถือเป็นการลดความเหลื่อมล้ำอย่างแท้จริง ไม่ใช่หว่านให้กับทุกคน โดยกลุ่มแรกที่ได้หากมีจำนวนเงินเหลือก็จะมีเงินเหลือซื้อสินค้าอุปโภค และบริโภค ถึง 200 - 300 บาท ก็ยังดี สามารถซื้อข้าวสารได้ เพราะเราตั้งงบประมาณไว้เพียงแค่ 4.6 หมื่นล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับยอดผู้ลงทะเบียนประมาณ 11 ล้านคน ถ้าหารกันจริงๆ จะเหลือคนละ 300 บาท ก็ไม่รู้จะให้ทำอะไร ต้องไปตั้งกองทุนและหาเงิน ซึ่งปีหน้าคงต้องตั้งงบประมาณเพิ่ม อีกทั้งต้องหาภาคเอกชนมาช่วย เช่น นำสินค้ามาจำหน่ายในราคาที่ถูก และหามาตรการทางการเงินการคลังช่วยผู้ประกอบการ เพื่อให้สินค้าราคาถูกลง