คลังพร้อมเดินหน้าดันตั้งไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ต่อ หลังเคลียร์ กทพ. จบ ลุ้นขายหน่วยลงทุนทันภายในปีนี้
นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 25 ส.ค. 2560 ได้มีการหารือในประเด็นปัญหาการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ กับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการดำเนินจัดตั้งกองทุนยังเป็นไปตามเป้าหมายเดิม คือ ระดมทุนให้ได้ภายในปีนี้
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) เปิดเผยว่า กทพ. จะส่งร่างสัญญาโอนและรับสิทธิโอนในรายได้ (RTA) โครงการทางพิเศษฉลองรัช (รามอินทรา-อาจณรงค์) และทางพิเศษบูรพาวิถี (บางนา-ชลบุรี) เพื่อโอนรายได้ในอนาคตที่ 45% ให้กับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์เป็นเวลา 30 ปี ให้สำนักงานอัยการตรวจสอบเห็นชอบ
ขณะที่ สคร. ก็ได้ดำเนินการเตรียมร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อยื่นจดทะเบียนเสนอขายหน่วยลงทุน จำนวน 4.4 หมื่นล้านบาท กับคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งจะต้องส่งควบคู่กับร่างสัญญา RTA โดยมีเจ้าหน้าที่ของ ก.ล.ต. มาช่วยให้คำแนะนำการเตรียมเอกสารอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถยื่นเอกสารทั้งหมดกับ ก.ล.ต. ได้ภายในเดือน ก.ย. นี้
“หลังจากนั้น คาดว่า ก.ล.ต. จะเร่งพิจารณาอนุมัติเอกสารทั้งหมด เนื่องจากเป็นเรื่องที่รัฐบาลให้ความสำคัญ เมื่อ ก.ล.ต. อนุมัติแล้ว กระทรวงการคลังก็จะเร่งทำประชาสัมพันธ์ และโรดโชว์ขายหน่วยลงทุน” นายชาญวิทย์ กล่าว
นายชาญวิทย์ กล่าวอีกว่า ปัญหาที่ กทพ. กังวลล่าสุด เป็นเรื่องของจำนวนระยะทางของโครงการทางพิเศษฉลองรัช ที่จะกำหนดไว้ในสัญญา RTA และการเพิ่มราคาทางด่วนในอนาคตว่าจะมีปัญหากับกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์หรือไม่ ซึ่งปลัดกระทรวงการคลังได้ทำความเข้าใจกับ กทพ. ว่า ปัญหาดังกล่าวไม่น่ากังวลจนทำให้การตั้งกองทุนล่าช้า และทางกระทรวงการคลังจะทำรายงานสรุปให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) รับทราบการจัดตั้งกองทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ทั้งหมดอีกครั้ง ซึ่งจะเขียนข้อกังวลต่าง ๆ ทั้งหมดของ กทพ. ไว้ในรายงานให้ ครม. รับทราบ เพื่อให้ กทพ. เกิดความสบายใจ