“ชูชาติ เพ็ชรอำไพ” บิ๊กบอส “เมืองไทย ลิสซิ่ง” คิวแน่น เดินสายเข้าพบกองทุน-นักลงทุนสถาบันชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ หลังโชว์สุดยอดผลงาน New High ต่อเนื่องตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ เผย 29 ส.ค. เดินทางพบกองทุนชั้นนำในประเทศ และในวันที่ 30 ส.ค. อัปเดตข้อมูลนักวิเคราะห์ 31 ส.ค. ร่วมงาน Thailand Focus และในเดือน ก.ย. โรดโชว์สหรัฐฯ โชว์ศักยภาพผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์-นาโนไฟแนนซ์ของเมืองไทย ไร้แรงกดดันคืนหนี้ตั๋วบี/อี-วางเป้าคุมหนี้เน่าไม่เกิน 1.5% ของสินเชื่อรวม
นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) ผู้นำตลาดสินเชื่อทะเบียนรถจักรยานยนต์และนาโนไฟแนนซ์เบอร์หนึ่งของประเทศไทย เปิดเผยว่า ภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ในช่วงที่ผ่านมา เติบโตอย่างแข็งแกร่ง รายได้และกำไรทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง นับตั้งแต่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ทำให้กลายเป็นหุ้นเนื้อหอมที่ได้รับการยอมรับจากทั้งนักลงทุนทั่วไป สถาบัน กองทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ โดยในวันที่ 29 สิงหาคม 2560 เดินสายเข้าพบกองทุนชั้นนำในประเทศ ได้แก่ บลจ. ไทยพาณิชย์, บลจ. ยูโอบี (ประเทศไทย), บลจ. กรุงไทย, บลจ. ทิสโก้, บริษัทประกันชีวิต เอ.ไอ.เอ., กองทุน ONE และกองทุน แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เพื่อนำเสนอแผนและทิศทางธุรกิจ เพื่อประกอบการตัดสินใจเพิ่มน้ำหนักลงทุนในหุ้น MTLS
ขณะที่ในวันที่ 30 สิงหาคม 2560 นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์ชั้นนำกว่า 40 แห่ง ได้แสดงความจำนงเข้าร่วมประชุม เพื่ออัปเดตข้อมูลธุรกิจของบริษัท ณ ห้อง Studio R2 ชั้น 4 โรงแรมเรเนซองส์ ระหว่างเวลา 9.00-13.30 น.
นอกจากนี้ ในวันที่ 31 สิงหาคม 2560 บริษัทฯ ยังได้เข้าร่วมงาน Thailand Focus ที่ Anantara Siam Hotel Bangkok เพื่อพบกองทุนชั้นนำทั้งในและต่างประเทศจำนวนมาก และในเดือนกันยายน 2560 เตรียมเดินทางไปพบนักลงทุนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยในระหว่างวันที่ 6-7 กันยายน 2560 ร่วมกับ Deutsche Bank ที่นิวยอร์ก และระหว่างวันที่ 11-14 กันยายน 2560 ร่วมกับ Decker&co. ที่ซานฟรานซิสโก และชิคาโก
ประธานกรรมการบริหาร MTLS กล่าวอีกว่า มั่นใจว่า ผลการดำเนินงานในปี 2560 จะเป็นไปตามแผนงานที่วางไว้ โดยบริษัทฯ วางเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่เติบโต 50% จากปีก่อนปล่อยสินเชื่อ 3.7 หมื่นล้านบาท หรืออยู่ที่ 5 หมื่นล้านบาท โดยครึ่งปีแรกปล่อยแล้ว 2.5 หมื่นล้านบาท และครึ่งปีหลังจะปล่อยสินเชื่อมากกว่าครึ่งปีแรก เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซัน ขณะที่รายได้และกำไรสุทธิจะเติบโต 50% จากปีก่อนที่มีรายได้ 4.47 พันล้านบาท และกำไรสุทธิ 1.4 พันล้านบาท ไร้แรงกดดันปัญหาคืนหนี้ตั๋วแลกเงินระยะสั้น (บี/อี) เนื่องจากบริษัทฯ ได้มีการเตรียมแผนรองรับไว้เรียบร้อยแล้ว ผ่านการออกหุ้นกู้ และขอยืนยันอีกครั้งว่า บริษัทฯ ไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุนแต่อย่างใด โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าคุมสุดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ไม่เกิน 1.5% ของสินเชื่อรวม
ขณะที่แผนการดำเนินงานในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2561-2563) ตั้งเป้าสินเชื่อ-รายได้-กำไรโตปีละ 30-40% ทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่องส่วนผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งแรกของปี 2560 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,459 ล้านบาท หรือ 78.06% มีกำไรสุทธิ 1,107 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 527 ล้านบาท หรือ 90.86% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน