xs
xsm
sm
md
lg

เสนอ สนง. สลากฯ วิจัยรอบด้านก่อนออกผลิตภัณฑ์ใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

“นายกสมาคมผู้พิการ” เสนอความเห็นต่อที่ประชุมประชาพิจารณ์ร่างกฎหมายสำนักงานสลากฯ ก่อนดำเนินการ ควรต้องทำการวิจัยก่อนทุกด้านทั้งในเรื่องของความต้องการ ผลกระทบทางสังคม และประโยชน์ของผู้ค้าสลากตัวจริง ส่วน “ผอ. เครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน” แนะ ต้องคำนึงถึงปัญหาการพนัน เพราะผลการแก้ไขกฎหมายใหม่เป็นการเปิดช่องให้คณะกรรมการสามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตได้ ทั้งเสนอให้โอนอำนาจในการพิจารณาใช้เงินกองทุนพัฒนาสังคมมูลค่าพันล้านจาก ผอ. สำนักงานสลากฯ ไปสู่กระทรวงการคลัง หวังเพิ่มความโปร่งใส

พลตรีฉลองรัฐ นาคอาทิตย์ ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวถึงร่างกฎหมายที่ได้มีการปรับปรุงนั้น จะมีอยู่ 7 ประเด็น เช่น ประเด็นการเพิ่มอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสลากฯ การเพิ่มกำหนดจำนวน ราคา รูปแบบ วิธีการจำหน่าย และการคัดเลือกตัวแทนจำหน่าย หรือการเพิ่มเงินรายได้เข้ารัฐเป็นร้อยละ 20 จากเดิมร้อยละ 18 แต่ยังคงเงินรางวัลเท่าเดิม เป็นต้น

นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการสลากฯ และโฆษกคณะกรรมการสลากฯ กล่าวถึงประเด็นสำคัญที่เปิดประชาพิจารณ์แก้ไขกฎหมายนั้น ก็เพื่อให้มีความทันสมัย และสอดคล้องกับปัจจุบัน รวมถึงความต้องการของสังคม และประชาชน อีกทั้ง ยังการแก้ไขกฎหมายครั้งนี้ไม่ได้มุ่งจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ เนื่องจากจะเป็นการแก้ไขกฎหมายทุกด้านที่ผู้ค้าและประชาชนได้เสนอมา เช่น การให้พิมพ์สลากฯ เพิ่มเติมจากที่กำหนดไว้ ปัจจุบันไม่เกิน 71 ล้านฉบับต่องวด เพิ่มเป็น 100 ล้านฉบับ การเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในระบบ การทำสลากรวมชุดขายเอง ซึ่งทุกแนวทางจะเป็นไปตามข้อเรียกร้องของผู้ค้าสลากรายย่อยที่ต้องการให้มีสลากฯ เพียงพอต่อความต้องการ และเป็นแนวทางที่สำนักงานสลากฯ เคยศึกษาไว้ แต่จะต้องรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนถึงความเป็นไปได้ รวมถึงผลกระทบทางสังคมที่จะต้องไม่เป็นการมอมเมาประชาชนด้วย

นอกจากนี้ ยังเสนอให้มีการแก้ไขกฎหมายเพื่อเพิ่มบทลงโทษสำหรับผู้จำหน่ายสลากฯ เกินราคาจากเดิมที่มีโทษปรับ 10,000 บาท โดยให้เพิ่มโทษปรับเป็น 30,000 บาท รวมถึงการเสนอให้มีการทบทวนโควตาผู้รับสลากฯ เดิม โดยเปิดให้มีการลงทะเบียนใหม่ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับสลากฯ เป็นผู้ค้าตัวจริ งและไม่ใช่ให้คนทั่วไป
 
อย่างไรก็ตาม นายอำนวย กลิ่นอยู่ นายกสมาคมคนพิการผู้ค้าสลาก (ประเทศไทย) ได้เสนอความเห็นว่า สำนักงานสลากฯ ควรต้องทำการวิจัยก่อนทุกด้านก่อนดำเนินการใด ๆ ทั้งในเรื่องของความต้องการ, ผลกระทบทางสังคมและประโยชน์ของผู้ค้าสลากตัวจริง เช่น การเพิ่มจำนวนสลากให้เพียงพอกับความต้องการของผู้ซื้อในแต่ละช่วง การจะเพิ่มผลิตภัณฑ์อื่น เช่น การทำหวยลอตโต้ สลากออนไลน์ เพื่อแข่งกับหวยใต้ดิน ซึ่งมีมูลค่า 100,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมองว่า การทำสลากรวมชุดขายเองนั้น จะเป็นหนึ่งแนวทางที่แก้ไขปัญหาสลากรวมชุด และปัญหาสลากมีราคาแพง แต่จะต้องทำการศึกษารอบคอบว่าจะช่วยทำให้ผู้ค้าสลากตัวจริงได้ประโยชน์จริงหรือไม่ และต้องประชาสัมพันธ์ให้สังคมรับรู้อย่างชัดเจน เนื่องจากไม่ว่าสลากจะมีมากหรือน้อย ประชาชนก็ให้ความสนใจ แต่ต้องไม่มอมเมาประชาชน 

นายธนากร คมกฤส ผู้อำนวยการเครือข่ายรณรงค์หยุดการพนัน ระบุว่า การแก้ไขกฎหมายสลากจะต้องคำนึงถึงปัญหาการพนัน เนื่องจากการแก้ไขกฎหมายใหม่เป็นการเปิดช่องให้คณะกรรมการสามารถตัดสินใจออกผลิตภัณฑ์ใหม่ในอนาคตได้ เช่น การให้รางวัลแจ็กพอตซึ่งจูงใจให้ประชาชนเล่นการพนัน ดังนั้น จึงต้องทำวิจัยผลกระทบทางสังคมรอบด้าน และปราศจากการเมืองเข้ามาแทรกแซงการทำงานของคณะกรรมการสลากฯ รวมถึงกองทุนพัฒนาสังคม 1,000 ล้านบาท ที่จะนำมาใช้สนับสนุนการวิจัย และรณรงค์ถึงความเข้าใจการพนัน และรณรงค์การหยุดการพนันนั้น ควรต้องมีการพิจารณาปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของผู้อำนวยการสำนักงานสลากฯ ในการใช้เงินในกองทุน โดยเสนอปรับปรุงใหม่ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของกระทรวงการคลังพิจารณาการใช้เงิน เพื่อให้มีความโปร่งใสมากขึ้น
 
ทั้งนี้ ในช่วงกลางเดือน ก.ย.-ต.ค. 60 สำนักงานสลากฯ จะได้นำร่างกฎหมายสลากกินแบ่งรัฐบาลใหม่ใส่ลงในเว็บไซต์ จากนั้น หากจำเป็นต้องเปิดทำประชาพิจารณ์รอบ 2 ก็จะดำเนินการเพื่อให้กฎหมายสลากใหม่สมบูรณ์ที่สุด ก่อนนำเสนอกระทรวงการคลัง คณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ตามลำดับ เพื่อให้พิจารณาตามขั้นตอน โดยคาดว่า กฎหมายฉบับใหม่จะบังคับใช้เดือน ส.ค. 61
กำลังโหลดความคิดเห็น