xs
xsm
sm
md
lg

ทิสโก้ มอง 3 ปัจจัย กดบาทอ่อนค่าลง หลัง 7 เดือนแรกแข็งเกือบ 8%

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ทิสโก้ มอง 3 ปัจจัย กดบาทอ่อนค่าลง หลัง 7 เดือนแรก แข็งเกือบ 8% คาดสิ้นปีอยู่ที่ 35.60 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ บล. กสิกรฯ มองแนวต้านหุ้นสัปดาห์นี้ 1,575-1,585 จุด

นายคมศร ประกอบผล หัวหน้าฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจและกลยุทธ์ ทิสโก้ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ต้นปี 2560 ที่ผ่านมา เงินบาทแข็งค่าขึ้นเกือบ 8% เมื่อเทียบกับค่าเงินเหรียญสหรัฐฯ ถือเป็นค่าเงินที่มีอัตราการแข็งค่ามากที่สุดสกุลหนึ่งของโลก สวนทางกับการประเมินของนักวิเคราะห์และนักเศรษฐศาสตร์หลายสำนักที่คาดว่า ค่าเงินบาทจะอ่อนค่าลงในปีนี้ โดยทิสโก้ คาดว่า สิ้นปีนี้ค่าเงินบาทจะแตะ 35.60 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ

อย่างไรก็ตาม เงินบาทน่าจะกลับมาอ่อนค่าลงในช่วงที่เหลือของปีนี้มาจากปัจจัย 3 ประการ คือ 1. ความคืบหน้าในการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะส่งผลให้เงินเหรียญสหรัฐฯ กลับมาแข็งค่าขึ้น

2. ดุลบัญชีเดินสะพัดของไทยเพิ่มขึ้นตามการส่งออกที่ฟื้นตัวเร็วกว่าที่คาดในช่วงครึ่งปีแรก เป็นปัจจัยกดดันให้เงินบาทแข็งค่า อาจมีแนวโน้มลดลงในช่วงครึ่งปีหลังตามการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมัน และการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่จะเริ่มต้นขึ้น

3. กระแสเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่ไหลเข้าตลาดพันธบัตรไทยเป็นจำนวนกว่า 200,000 ล้านบาท ตั้งแต่ต้นปี 2560 อาจมีความเสี่ยงที่จะไหลกลับตามแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดขึ้นของธนาคารกลางหลักของโลก คือ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ซึ่งคาดว่า เฟดจะประกาศลดขนาดงบดุลในเดือน ก.ย. นี้ และธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ที่คาดว่าจะประกาศลดอัตราการเข้าซื้อสินทรัพย์ผ่านมาตรการผ่อนคลายทางการเงิน (คิวอี) ลงในเดือน ต.ค. นี้

ด้าน บล. กสิกรไทย คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยวันที่ 21-25 ส.ค. มีแนวรับที่ 1,555 และ 1,535 จุด ส่วนแนวต้านอยู่ที่ 1,575 และ 1,585 จุด โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขจีดีพี ไตรมาส 2/2560 ของไทย ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI (เบื้องต้น) เดือน ส.ค. ยอดขายบ้านใหม่และบ้านมือสอง และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือน ก.ค.
กำลังโหลดความคิดเห็น