xs
xsm
sm
md
lg

หุ้น “อีเอ็มซี” หนี้พัลวัน/สุนันท์ ศรีจันทรา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


      บริษัท อีเอ็มซี จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น EMC เพิ่งรายงานความคืบหน้าล่าสุดถึงคดีและการติดตามเรียกชำระหนี้คืน ประจำงวดไตรมาสที่ 2 ปี 2560 ซึ่งเป็นหนี้ที่ผู้ตรวจสอบบัญชีแสดงความเห็นอย่างมีเงื่อนไข ไว้ในงบการเงินปี 2559 จนตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยต้องตามติดหนี้ที่มีปัญหา
      “อีเอ็มซี” จ่ายเงินล่วงหน้าเพื่อซื้อโครงการอสังหาริมทรัพย์หลายโครงการ รวมจำนวน 466.34 ล้านบาท และเกิดข้อพิพาทในคดีแพ่ง แต่คู่กรณีได้โยกย้ายทรัพย์สินที่อยู่ระหว่างคดีความ จึงฟ้องคดีอาญาในข้อหาฉ้อโกงรวม 5 คดี โดยศาลนัดฟังคำสั่งในปลายเดือนสิงหาคมและกันยายนนี้
     นอกจากนั้น “อีเอ็มซี”ยังรายงานบันทึกการด้อยค่าเงินลงทุนใน 4 บริษัทย่อย จำนวน 155 ล้านบาท และรายงานการเรียกคืนเงินจ่ายค่าก่อสร้างโครงการล่วงหน้าจำนวน 32.02 ล้านบาท โดยเรียกคืนมาแล้ว 14.82 ล้านบาท ยังเหลือที่ต้องเรียกคืนอีก 17.21 ล้านบาท
     รวมทั้งรายงานการออกตั๋วแลกเงิน (บี/อี) จำนวน 170 ล้านบาท รายงานการให้กู้ยืมเงินบริษัทอื่น และรายงานความคืบการเรียกคืนเงินมัดในอีกหลายโครงการ


     ถ้าอ่านรายงานเกี่ยวกับคดีฟ้องร้องเรื่องหนี้และความคืบหน้าในการเรียกหนี้คืน ซึ่ง “อีเอ็มซี” แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ นักลงทุนทั่วไปคงจะสับสน มึนงงกับธุรกรรมของบริษัทจดทะเบียนแห่งนี้ เพราะมีรายการหนี้ยุ่งเหยิงเป็นพัลวัน มีทั้งกู้และปล่อยกู้ ที่เป็นปัญหาหนักคือ เงินค่ามัดจำหรือเงินจ่ายล่วงหน้าในการซื้อทรัพย์สิน
    บริษัทจดทะเบียนหลายแห่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกับ “อีเอ็มซี” โดยมัดจะจ่ายมัดจำซื้อทรัพย์สินด้วยเงินก้อนโต และเงินมัดจำที่จ่ายไปมีปัญหาในการเรียกคืน
เพียงแต่ “อีเอ็มซี” มีธุรกรรมซื้อทรัพย์สินและเกิดปัญหาการเรียกคืนเงินมัดจำนับสิบรายการ เป็นเหตุสำคัญให้ผลประกอบการกระท่อนกระแท่น

     หุ้นอีเอ็มซีหงอยมาเป็นปีแล้ว โดยราคาเคลื่อนไหวแถวๆ 10 สตางค์ มีนักลงทุนรายย่อยติดค้างหุ้นอยู่จำนวน7,179 ราย ผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัทฯคือกลุ่มลีนะบรรจง
     ประวัติการเพิ่มทุนอีเอ็มซีถือว่าไม่เบา ปี 2557 เพิ่มทุน 3 ครั้ง ขายผู้ถือหุ้นเดิม1 ครั้ง ขายบุคคลในวงจำกัดหรือพีพี 2 ครั้ง ปี 2558 เพิ่มทุน 2 ครั้ง ขายผู้ถือหุ้นเดิม 1 ครั้ง ขายพีพี 1 ครั้ง
     ส่วนผลประกอบการ ตั้งแต่ปี 2557-2559 ขาดทุนสุทธิปีละไม่ต่ำกว่า 200 ล้าน และ 6 เดือนแรกปีนี้ ขาดทุนไปแล้ว 126.70 ล้านบาท โดยปีนี้ น่าจะยังคงขาดทุนต่อไป

     ปัญหาระยะสั้นของหุ้นอีเอ็มซีคือ การติดตามเร่งรัดเรียกหนี้คืน ซึ่งไม่ง่าย เพราะหลายรายการเป็นคดีความอยู่ในศาล หลายรายงานไม่รู้ว่า จะเรียกหนี้คืนไม่ได้ อาจกระทบต่อฐานะทางการเงินในอนาคต เนื่องจากยอดขาดทุนสะสมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
    เงินที่ระดมทุนมาหลายรอบ น่าจะสลายไปกับการลงทุน การวางมัดจำ การชำระล่วงหน้า ในธุรกรรมการซื้อทรัพย์สิน การดำเนินงานต่างๆ ไปแล้ว
     และถ้าจะเพิ่มทุนอีก นักลงทุนอาจเข็ดขยาด เหมือนกับบริษัทจดทะเบียนหลายแห่งที่เพิ่มทุนถี่ สูบเงินผู้ถือหุ้นรายย่อยจนแทบเกลียงกระเป๋า
     สำหรับอีเอ็มซี คงไม่ต้องทำนายอนาคตแล้วว่าจะเป็นอย่างไร เพราะปัญหาคดีและการเรียกหนี้คืนที่คาราคาซังอยู่ ซึ่งเป็นเงินก้อนโตที่ “จม”ไปกับการจ่ายค่ามัดจำซื้อทรัพย์สินนั้น ส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานอย่างรุนแรง
      จนดูไม่ออกว่า หุ้นอีเอ็มซีจะไปยังไงต่อ
กำลังโหลดความคิดเห็น